กว่าจะโด่งดังบนเส้นทางวงการบันเทิง เป็นที่รู้จักของคนทั้งในวงการ และนอกวงการ รวมทั้งเราๆ ท่านๆ ที่เสพหนัง เสพละคร หลายคนต้องผ่านความยากลำบาก กว่าจะมีชื่อเสียงได้ บางคนอยู่ในเส้นทางนี้ แต่ก็ยังไม่แจ้งเกิดแบบเปรี้ยงๆ ชนิดที่ฝากผลงานแบบมาสเตอร์พีชได้สักที แต่ก็มีอีกไม่น้อยเช่นกัน ที่เข้าวงการมาไม่ทันไร ลองชิมลางบทบาทนักแสดงใน 'จอเงิน' ก็ดังชั่วข้ามคืน จนตอนนี้กลายเป็น "ดาวเด่น" ของวงการไปเป็นที่เรียบร้อย
'ติ๊ก-เจษฏาภรณ์ ผลดี' พระเอกสุดหล่อ ซูเปอร์สตาร์อีกรายของเมืองไทย โด่งดังมาจากบท 'แดง ไบเล่' จากภาพยนตร์ '2499 อันธพาลครองเมือง' เมื่อปี พ.ศ. 2540 ภาพยนตร์เรื่องนี้ส่งให้ 'ติ๊ก' เป็นที่รู้จักไปทั่วบ้านทั่วเมือง ใครๆ ต่างก็หลงเสน่ห์พระเอกหน้าใหม่สุดหล่อ หลังจากนั้นก็มีงานถ่ายแบบ งานพิธีกร รวมถึงงานละครเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ทั้ง "ปริศนา-ตะวันตัดบูรพา-เลือดขัตติยา-วนิดา" และล่าสุดจากละคร "อย่าลืมฉัน" ที่เพิ่งลาจอไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กว่า 17 ปี บนถนนบันเทิง 'ติ๊ก' กลายเป็นพระเอกหนุ่มดาวคางฟ้าไปเป็นที่เรียบร้อย
'โอ-อนุชิต สพันธุ์พงษ์' นักแสดงมากฝีมือ ที่เคยฝากผลงานการแสดงในภาพยนตร์ '15 ค่ำเดือน 11' เมื่อปี พ.ศ. 2545 จนได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในเวทีรางวัลด้านภาพยนตร์หลายเวที ก่อนที่ตอกย้ำความแรงในภาพยนตร์ไทยแห่งปี พ.ศ. 2547 เรื่อง 'โหมโรง' ในบท 'ศร' ตอนหนุ่ม หนุ่มดนตรีไทย เรื่องนี้ทำให้ใครหลายๆ คนพูดถึงและจับตามอง ก่อนที่จะได้โลดแล่นอยู่ในจอแก้ว ที่ฝากผลงานไว้หลายเรื่อง อาทิ "พรุ่งนี้ไม่สาย...ที่จะรักกัน-คมแฝก-รุกฆาต" เป็นต้น
'นุ่น-ศิรพนธ์ วัฒนจินดา' สาวเหนือทรงเสน่ห์ ที่โด่งดังกับบท 'ดากานดา' จากภาพยนตร์แอบรักเพื่อนสุดซึ้ง 'เพื่อนสนิท' เมื่อปี พ.ศ. 2548 ช่วงนั้นมีแต่คนพูดถึง 'ดากานดา' กันทั่วบ้านทั่วเมือง หลังจากนั้นก็ได้เซ็นสัญญากับทางช่อง 3 และมีผลงานละครตามมาหลายเรื่อง อาทิ "เมื่อดอกรักบาน-ยุทธการหักคานทอง" และเรื่อง 'บ่วง' กับบท 'ผีอีแพง' ที่ทำให้ 'นุ่น' คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากเวทีนาฏราช ครั้งที่ 4 ไปครอง
'มาริโอ้ เมาเร่อ' พระเอกสุดฮอตวิกพระราม 4 รายนี้ก่อนที่จะเป็นพระเอกเบอร์ต้นๆ ของช่อง 3 เคยอวดฝีมือผ่านจอเงินจากภาพยนตร์ 'รักแห่งสยาม' เมื่อปี พ.ศ. 2550 ที่สวมบทวัยรุ่นชายรักชาย ที่ต้องแบกรับปัญหาของครอบครัวเอาไว้ ด้วยความใสซื่อ บริสุทธิ์ ก็ทำให้ใครๆ ต่างตกหลุมรัก และคว้ารางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมจากนิตยสารสตาร์พิกส์ ก่อนที่จะประเดิมผลงานละครเรื่อง 'ใต้ฟ้าตะวันเดียว' ในปี พ.ศ. 2553 และเซ็นสัญญากับทางช่อง 3 ฝากผลงานละครไว้มากมาย อาทิ "รักเกิดในตลาดสด-มาดามดัน" และละครชุด "Rising Sun"
'ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์' นางเอกสาวที่โด่งดังจากผลงานภาพยนตร์เรื่อง 'สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก' กับบท 'น้ำ' สาวน้อยหหน้าตารูปร่างไม่ดี หลงรักรุ่นพี่ในโรงเรียน และพร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจนทำให้ได้รักกับรุ่นพี่ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ 'ใบเฟิร์น' เป็นนักแสดงวัยรุ่นที่น่าจับตามอง และทำให้ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเอเชีย ประเทศจีน และประเทศฟิลิปปินส์ พากันให้ความสนใจ ทั้งนี้ ช่อง 7 ไม่รอช้า จับเซ็นสัญญาเป็นเด็กในสังกัด พร้อมมีผลงานละครมากมาย อาทิ "นักสู้พันธ์ข้าวเหนียว-อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว-ลูกไม้หลากสี-คุณผีที่รัก"
ตบท้ายด้วย 'หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ' รายนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเข้าวงการมานานตั้งแต่เด็กๆ เคยอวดฝีไม้ลายมือผ่านละครเวทีอยู่หลายเรื่อง แถมเคยฝากผลงานไว้ในละคร "น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์" ก่อนที่จะโดดไปแสดงหนังเรื่อง 'กวน มึน โฮ' ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างสูง ทำรายได้กว่า 130 ล้านบาท แถมยังส่งให้ 'หนูนา' คว้ารางวัลสุพรรณหงส์ ในสาขานักแสดงนำหญิงอีกด้วย ทั้งนี้ภาพยนตร์ยังแจ้งเกิดหนูนาแบบดังไม่หยุดฉุดไม่อยู่ 'บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ' บิ๊กบอสเอ็กแซ็กท์ ก็คว้าตัวมาเป็นนางเอกละครประกบคู่ 'บี้-สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว' ในละครเรื่อง 'คู่กรรม' สานต่อความดังจนกลายเป็นนางเอกละครแถวหน้าของค่าย..
แม้ 'จอเงิน' จะมีคนดูเข้าถึงยากกว่า 'จอแก้ว' ที่เพียงแค่เปิดทีวีก็ดูได้ทันที แต่ผลที่ตามมาของนักแสดงที่แจ้งเกิดจาก 'จอเงิน' ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะถ้าหนังดังติดลมจนเป็นกระแส นอกจากจะมีโอกาสสานต่อด้วยการเล่นละคร มีโอกาสลุ้นรางวัลตามเวทีประกาศต่างๆ แล้ว ในแง่ของการนำหนังฉายที่ต่างประเทศ 'จอเงิน' อาจพาไปแจ้งเกิดถึงเวทีโลก ได้อีกด้วย...
.............................
โดย "ลานบิน"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น