เอชพีวี ไวรัสร้าย สาเหตุ มะเร็งปากมดลูก ที่ผู้หญิงต้องรู้

เนื่องในโอกาสที่เดือนมกราคมเป็นเดือนแห่งการรณรงค์โรค มะเร็งปากมดลูก ในต่างประเทศ Women MThai จึงขอเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเชื้อไวรัสเอชพีวีภัยใกล้ตัวของผู้หญิง เพราะเป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งปากมดลูก พร้อมรณรงค์ให้หญิงไทยหันมาให้ความใส่ใจในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจเอชพีวี ดีเอ็นเอ เพื่อช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกให้น้อยลง โดยได้เข้าร่วมฟังเสวนาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งนรีเวชที่มาให้ความรู้ พร้อมแขกรับเชิญพิเศษมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การดูแลตัวเอง ณ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท เมื่อวันก่อน

นายแพทย์ณัฐวุฒิ กันตถาวร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งนรีเวช สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า “โรค มะเร็งปากมดลูก ยังคงเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในหญิงไทย โดยพบผู้ป่วยใหม่ปีละ 8,184 ราย นั่นก็เป็นเพราะโรคมะเร็งปากมดลูกมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งสามารถอยู่ในร่างกายได้นานถึง 10 ปี หรืออาจจะนานกว่านั้นโดยไม่แสดงอาการใดๆ ดังนั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงไม่รู้ว่าตนเองมีเชื้อไวรัสเอชพีวีอยู่ในร่างกาย ซึ่งจากสถิติพบว่าผู้หญิง 4 ใน 5 คน ติดเชื้อไวรัสเอชพีวีช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต เพราะเชื้อไวรัสเอชพีวีติดต่อได้ผ่านทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้น ผู้หญิงยังคงเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชพีวีได้ ถึงแม้ว่าจะมีคู่นอนเพียงคนเดียว หรือใช้ถุงยางอนามัย เพราะถุงยางอนามัยสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ แต่ไม่ทั้งหมด เพราะไม่ได้ครอบคลุมอวัยวะเพศชายทั้งหมด นอกจากนั้น ผู้หญิงยังอาจติดเชื้อเอชพีวีได้แม้ว่าจะไม่มีเพศสัมพันธ์มาหลายปีแล้ว หรือเคยฉีดวัคซีนแล้ว แต่เคยรับเชื้อมาก่อนหน้านั้น”

สำหรับ ‘เชื้อไวรัสเอชพีวี’ หรือ Human Papilloma Virus (HPV) เป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งปากมดลูก ถึงร้อยละ 99 ของผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกทั้งหมด ซึ่งโดยปกติร่างกายคนเราจะสามารถขจัดเชื้อออกไปเองได้ แต่หากร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสเอชพีวีออกไปได้ ก็มีโอกาสจะพัฒนากลายเป็นมะเร็ง โดยผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเอชพีวีในระยะแรกจะไม่แสดงอาการใดๆ แต่หากร่างกายเริ่มแสดงอาการผิดปกติออกมา นั่นหมายถึงว่ามะเร็งเริ่มเข้าระยะลุกลามแล้ว ทำให้การรักษาทำได้ยากขึ้นเช่นกัน โดยเชื้อไวรัสเอชพีวีมีมากกว่าร้อยสายพันธุ์ ซึ่งส่วนมากเป็นสายพันธุ์ที่มี “ความเสี่ยงต่ำ” เพราะไม่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก แต่มีอยู่ 14 สายพันธุ์ ที่เป็นสายพันธุ์ที่มี “ความเสี่ยงสูง” เพราะเป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งปากมดลูก โดยในเชื้อเอชพีวีจำนวน 14 สายพันธุ์นั้น ‘สายพันธุ์ 16’ และ ‘สายพันธุ์ 18’ เป็นสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก โดยพบได้ในผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกถึงร้อยละ 70

“จากการวิจัยพบว่าผู้หญิงที่ติดเชื้อไวรัสเอชพีวี สายพันธุ์ 16 และ 18 มีความเสี่ยงในการพัฒนาเป็นรอยโรคก่อนมะเร็งสูงกว่าผู้หญิงที่ไม่มีเชื้อดังกล่าวถึง 35 เท่า และยังพบอีกว่า 1 ใน 10 ของผู้หญิงที่ติดเชื้อไวรัสเอชพีวีสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง จะพบรอยโรคก่อนมะเร็งแม้ว่าผลตรวจแพปสเมียร์จะออกมาเป็นปกติก็ตาม เพราะการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยแพปสเมียร์ เป็นการตรวจหาการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในปากมดลูก ซึ่งมีค่าความไวในการตรวจพบต่ำ ทำให้อาจตรวจไม่พบระยะรอยโรคก่อนมะเร็ง โดยจากการศึกษาพบว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก มีผลตรวจแพปสเมียร์ปกติ จึงเห็นได้ว่าการตรวจคัดกรองด้วยวิธีแพปสเมียร์เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอในการประเมินความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกอีกต่อไป” น.พ.ณัฐวุฒิ กล่าวเพิ่มเติม

เนื่องจากผู้หญิงที่ติดเชื้อไวรัสเอชพีวี มักไม่แสดงอาการออกมา ดังนั้น การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีการหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวีจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะเทสต์ตรวจเอชพีวี ดีเอ็นเอ (HPV DNA Test) เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี 14 สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก และยังสามารถระบุการติดเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 และ 18 ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดได้อย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถเลือกวิธีการรักษาได้อย่างเหมาะสมด้วยข้อมูลที่ครบถ้วน และที่สำคัญเทสต์ตรวจเอชพีวี ดีเอ็นเอเป็นการตรวจหาความเสี่ยงของการเกิดรอยโรคก่อนมะเร็ง ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่เซลล์ปาก มดลูกและนั่นหมายถึงก่อนที่มะเร็งจะเกิดขึ้น1 เพราะเทสต์ตรวจเอชพีวี ดีเอ็นเอ มีความไวในการตรวจจับรอยโรคก่อนมะเร็งได้ดีและสูงกว่าวิธีดั้งเดิมเช่นแพปสเมียร์ (Pap smear) และ วีไอเอ (VIA)

“ดังนั้น การรณรงค์ให้สตรีเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีการตรวจเอชพีวี ดีเอ็นเอ (HPV DNA Test) จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเทสต์ตรวจเอชพีวี ดีเอ็นเอมีความไวในการตรวจพบ ทำให้แพทย์สามารถมั่นใจผลที่ได้ จึงช่วยเพิ่มโอกาสในการตรวจพบเชื้อได้ในระยะเริ่มแรกและนำไปสู่การป้องกันมะเร็งปากมดลูกในระยะยาวได้ ซึ่งจากสถิติพบว่าหากตรวจพบเร็ว การรักษาในระยะก่อนมะเร็งลุกลามมีโอกาสหายขาดสูงถึงร้อยละ 98 จึงช่วยลดอุบัติการณ์และอัตราการตายด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ในขณะที่หากผลตรวจไม่พบการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (ผลเป็นลบ) ผู้หญิงก็สามารถเว้นระยะการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกไปได้ถึง 3 ปี”

ด้านแขกรับเชิญพิเศษ คุณเอมี่ กลิ่นประทุม ได้มาร่วมแชร์ประสบการณ์และวิธีดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกว่า “ก่อนหน้านี้ ตัวเอมี่เองก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ไม่ทราบเรื่องของเชื้อเอชพีวี จนกระทั่งได้เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ตอนนั้นไปเพราะเพื่อนชวนไปไม่ได้คิดอะไร แต่พอตรวจพบเราก็ตกใจ แต่โชคดีที่เราพบในระยะเริ่มแรก ซึ่งยังไม่ได้พัฒนาไปเป็นมะเร็ง คุณหมอก็แนะนำให้เอมี่เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดเอาเซลล์ที่ผิดปกติออกไป ซึ่งหลังจากผ่าตัดเราก็หายเป็นปกติและยังคงมีลูกได้ จากนี้เอมี่เพียงแค่ต้องไปตรวจคัดกรองเป็นประจำ รวมไปถึงการดูแลร่างกายให้แข็งแรงด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายค่ะ จะเห็นได้ว่าเอมี่ตรวจพบเร็ว ก็รักษาได้เร็ว ป้องกันโรคลุกลามได้ ดังนั้น อยากให้ผู้หญิงทุกคนมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกกันนะคะ ก่อนที่จะสายเกินไปค่ะ”

สำหรับผู้หญิงที่อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเชื้อไวรัสเอชพีวีและโรคมะเร็งปากมดลูก สามารถหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ www.hpvactnow.com

ภาพโดย Covinus
รายงานโดย Women MThai Team

ระวัง! น้องหนูสะอาดเกินไป ก็ป่วยได้เหมือนกันนะ

น้องหนู สะอาดเกินไปไม่ใช่เรื่องดี

       การดูแลจุดสงวนของผู้หญิงอย่างเราๆ หลายคนคิดว่าเป็น เรื่องง่าย อาบน้ำยังไงก็อาบจุดนั้นได้เหมือนกัน แต่ทว่าในทาง กลับกันหากทำความสะอาดมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียได้นะคะ

         นอกเหนือจากกลไกการทำความสะอาดภายในช่องคลอดตามธรรมชาติไปแล้ว คุณผู้หญิงจะยังต้องรักษาความสะอาด บริเวณภายนอกช่องคลอดอย่างถูกต้อง โดยไม่ให้เสียสมดุล เนื่องจากบริเวณช่องคลอดนั้นมีเชื้อแบคทีเรียอยู่หลายชนิด ที่เป็นประโยชน์ อาทิ แลคโตแบซิลลัส แบคทีเรียซึ่งช่วยป้องกัน การติดเชื้อ ส่งผลให้ช่องคลอดมีสภาพเป็นกรด ยับยั้งการ เจริญเติบโตของแบคทีเรียตัวร้าย การขจัดสิ่งสกปรกจึงต้อง ไม่ทำลายแบคทีเรียตัวดี ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความ สะอาดจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะแบบที่เป็นสบู่ผสมน้ำหอมนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องใช้บ่อยครั้ง โดยสามารถใช้น้ำสะอาดล้าง แต่ไม่ควรฉีดน้ำแรง ๆ เข้าช่องคลอด หรือล้างลึกลุกล้ำเข้าไปภายใน เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อที่อุ้งเชิงกรานได้

สำหรับขนบริเวณอวัยวะเพศ ไม่ควรโกนทิ้ง เนื่องจากช่วย กรองฝุ่นละอองไม่ให้เข้าสู่อวัยวะเพศ ขณะที่อาการคันมักเกิด เพราะความอับชื้นของเหงื่อจากการสวมกางเกงชั้นในหรือ กางเกงที่รัดแน่นเกินไป หากไม่เปลี่ยนขนาดเครื่องนุ่งห่ม นานวันไปอาจมีปัญหาเชื้อราตามมา

กลิ่นจากช่องคลอด ซึ่งไม่เหม็นรุนแรงนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ โดยกลิ่นจะเป็นเช่นไรก็ขึ้นอยู่กับอาหารที่รับประทาน สารเคมี ในร่างกาย ช่วงการมีประจำเดือน หรือจากเหงื่อที่ขับออกมา

อย่างไรก็ตาม ทุก ๆ 3 เดือน คุณผู้หญิงควรใช้กระจกส่องดู อวัยวะเพศเพื่อสังเกตความผิดปกติของขนาดหรือสี หาก มีลักษณะเปลี่ยนไปควรรีบไปพบสูตินรีแพทย์โดยด่วนค่ะ

ขอบคุณเนื้อหาจาก www.lauriermybrand.com

ผลการศึกษาพบ เคี้ยวหมากฝรั่ง 10 นาที ทำลายแบคทีเรียล้านตัว !

เวลาเห็นใครเคี้ยวหมากฝรั่ง ก็มักจะทำให้ดูบุคลิกภาพไม่ดีไปโดยปริยายใช่ไหมคะ บ้างก็ตัดสินไปต่างๆนานา ว่าไม่เอาไหน ไม่โต ไม่รู้จักกาลเทศะ แต่นี่.. สาวๆรู้มั้ยว่า หมากฝรั่งน่ะ มีประโยชน์ในการทำลายแบคทีเรียด้วยนะเอ้อ ไม่เชื่อลองมาดูกัน

ผลการศึกษาล่าสุดในวารสาร PLOS One พบว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งนั้นสามารถทำลายแบคทีเรียได้กว่า 100 ล้านตัว จากปากของเรา! 

นักวิจัยจาก University of Groningen ในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้เคี้ยวหมากฝรั่ง ก่อน มองผ่านกล้องจุลทรรศน์ พบว่า เวลาในการเคี้ยวเองนั้นก็มีผลเช่นกัน โดยหากคุณเคี้ยวหมากฝรั่ง เป็นเวลา 10 นาที ถือว่าเป็นระยะเวลาปลอดภัย คือ จะช่วยทำลายแบคทีเรียในช่องปาก แต่ถ้าหากมากกว่า 10 นาทีล่ะก็ หมากฝรั่งเจ้ากรรมก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียกลับเข้าไปในปาก 

ยิ่งไปกว่านั้น หมากฝรั่ง ยังเกี่ยวข้องกับการตื่นตัวมากขึ้นและอารมณ์ที่เป็นบวกมากขึ้น โดยจะทำให้คนเคี้ยวมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วกว่าคนที่ไม่ได้เคี้ยวหมากฝรั่ง และ ยังช่วยพัฒนาระบบความคิดและความสนใจหรือจดจ่อต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเป็นพิเศษด้วย   ( สังเกตได้จากหากเราเคี้ยวหมากฝรั่ง เราจะมีสติสัมปชัญญะมากขึ้น เช่นตอนขับรถ )

แถมอัตราการเต้นหัวใจและระดับ cortisol สูงขึ้่นอย่างชัดเจน  แต่อย่างไรก็ดี ผลการวิจัยที่ผ่านมา ก็บอกข้อเสียของหมากฝรั่งเช่นกันคือ จะทำให้ลดความสามารถในการจดจำนะเธอ

 

อันนี้ก็ต้องชั่งใจกันเองแล้วล่ะนะ ว่าอะไรสำคัญกว่า เคี้ยวหมากฝรั่ง นานๆ ที ก็ไม่เป็นอะไรหรอกเนอะ

ที่มาภาพจาก thankyourbody.com
เรื่อง Metro.co.uk , ncbi.nlm.nih.gov
เรียบเรียงโดย Women Mthai Team

 

อย่าพลาด! อาหารเช้า มื้อสำคัญต่อ สุขภาพ

ปรับพฤติกรรมการกิน อาหารเช้า ด้วย 6 เคล็ดลับ

       คุณทราบหรือไม่ว่าการงดรับประทาน อาหารเช้า จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ผลที่ตามมาคือ ร่างกายขาดความสามารถในการควบคุมน้ำหนัก และมีแนวโน้มที่มีพฤติกรรมเลือกบริโภคอาหารที่มีไขมัน แคลอรี และน้ำตาลสูงกว่าปกติ ทั้งยังเลือกกินผัก และผลไม้น้อยลงกว่าปกติอีกด้วย แต่คุณสามารถปรับพฤติกรรมนั้นได้ด้วย 6 เคล็ดลับเหล่านี้ค่ะ

     1. เริ่มต้นมื้อเช้ากับอาหารเบา ๆ ปริมาณน้อย ๆโดยเลือกเมนูที่ย่อยง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร เช่น เครื่องดื่มโปรตีนเชคกับผลไม้ หรือไข่ต้มสักลูก ตบท้ายด้วยผลไม้สัก 2-3 ชิ้น

     2. โปรตีน สารอาหารสำคัญสำหรับมื้อแรก จากการศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานอาหารเช้าที่เป็นโปรตีนปริมาณสูง มีแนวโน้มที่จะลดแคลอรีจากการบริโภคอาหารมื้อเย็นได้มากกว่าผู้ที่รับประทานมื้อเช้าแบบปกติถึง 200 แคลอรี เพราะโปรตีนทำให้ร่างกายอิ่มได้นาน และยังกระตุ้นให้ร่างกาย จิตใจ ตื่นตัวไปตลอดทั้งวัน

     3. เปลี่ยนอาหารมื้อหนักเป็นของว่างที่กินได้เรื่อย ๆ การฝึกรับประทานอาหารเช้าให้เป็นนิสัยนั้นไม่จำเป็นต้องรับประทานอาหารทั้งมื้อให้หมดภายในครั้งเดียว แต่สามารถใช้เวลาละเลียด หรือเว้นช่วงการรับประทานได้

     4. ตื่นก่อนเวลาปกติ 15 นาที เพื่อที่คุณจะได้ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันอย่างไม่ต้องเร่งรีบ และยังเป็นการกระตุ้นระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ตื่นตัวจากการนอนหลับ และพร้อมที่จะผจญกับภารกิจต่าง ๆ ได้อีกด้วย

     5. เมนูไหน ๆ ก็เป็น อาหารเช้า ได้เสมอ เพราะเราเน้นที่คุณค่าของสารอาหารที่บริโภคเป็นหลัก ดังนั้นไม่ว่า อาหารเช้า จะเป็นอาหารเหลือจากมื้อเย็น หรืออาหารปรุงสำเร็จในช่องแข็ง ทุกเมนูสามารถเป็น อาหารเช้า ได้เสมอ

     6. อย่ามั่นใจกับกาแฟและมัฟฟินในมื้อเช้า หลายคนเชื่อว่าแค่ดื่มกาแฟคู่กับมัฟฟิน หรือเบเกอรี่อื่น ๆ สักชิ้นก็อิ่มท้องเทียบเท่ากับ อาหารเช้า ที่มีคุณค่าได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงกาแฟกับมัฟฟินให้พลังงานสูงถึง 700 แคลอรี รวมทั้งมีไขมันไม่ดีที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของคุณถึง 6 ช้อนชา ฉะนั้นเปลี่ยนเป็นมื้อเช้าที่มีคุณภาพดีกว่าค่ะ

ที่มาจากนิตยสาร ขวัญเรือน

 

สูตรลดความอ้วน South Beach Diet อดแป้งไม่อดผอม!!!

         สูตรลดความอ้วน  South Beach Diet เป็นสูตรลดความอ้วนที่ถูกคิดค้นโดยนายแพทย์ Arthur Agatston โดยแนวคิดนี้ออยู่บนบนสมมุติฐานที่ว่า อาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลเป็นตัวกระตุ้นหรือตัวการที่ทำให้เกิดความอยากกินอาหารต่างๆ จนทำให้เป็นต้นเหตุแห่งความอ้วนที่เกิดขึ้น ด้วยแนวคิดนี้จึงได้มีการคิดค้นสูตรลดความอ้วนที่ชื่อว่า South Beach Diet ขึ้นมา ดูกันดีกว่าวิธีการปฏิบัตินั้นต้องทำอะไรกันบ้าง

สูตรลดความอ้วน South Beach Diet

แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ

ระยะที่ 1

เป็นระยะของความหฤโหด เพราะเราจะต้องงดกินอาหารที่มีแป้ง และน้ำตาลทุกชนิดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่สามารถกินเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ได้อย่างเต็มที่ โดยที่ผักและผลไม้นั้นจะต้องไม่มีแป้งหรือน้ำตาล หรือมีน้อยมากๆเท่านั้น

ระยะที่ 2

หลังเริ่มคุ้นเคยจากกินอาหารตามที่กำหนดไว้ในระยะที่ 1 แล้วในระยะนี้จะอนุญาตให้กินอาหารพวกแป้ง และน้ำตาลได้ในปริมาณที่น้อย แล้วค่อยๆเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนอยู่ในปริมาณที่เราพอใจ

ระยะที่ 3

คือระยะคงตัวโดยให้กินอาหารตามที่เราได้ทำไว้ในระยะที่ 2 อย่างเคร่งครัด กินต่อเนื่องไปตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะเบื่อกันไปข้าง

ข้อดีของการลดความอ้วนด้วย South Beach Diet

1.ไม่ต้องมาคอยนั่งคำนวณปริมาณแคลอรี่ เพราะไม่จำกัดว่าจะกินอาหารมากน้อยเท่าไร แต่ขอให้มีการงดแป้ง และน้ำตาลใน 2 สัปดาห์แรกเท่านั้น

2.เลือกกินอาหารได้ตามใจชอบ ไม่ต้องกังวลกับชนิดของอาหารที่กิน ขอให้อยู่ในเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ก็พอ

3.สามารลดน้ำหนักได้รวดเร็ว เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับน้ำตาล หรือได้รับในปริมาณที่ต่ำมาก ร่างกายจึงต้องไปดึงพลังงานจากไขมันที่เก็บสะสมในร่างกายมาใช้งานแทน ทำให้เกิดการเผาผลาญพลังงานที่ถูกสะสมอยู่ในร่างกายได้มากมายในระยะเวลาอันสั้น

1.ไม่ต้องมานั่งอดข้าวอดน้ำ

5.สามารถลดคอเลสเตอรอลตัวเลว ที่ทำให้เกิดการอุดตันในเส้นเลือด แต่ไม่ลดคอเลสเตอรอลตัวดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ข้อควรพิจารณาก่อนลดความอ้วนด้วยวิธี South Beach Diet

1.ไตอาจทำงานหนักมาก เพราะอาหารที่กินส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อสัตว์ ซึ่งเมื่อผ่านการย่อยแล้วก็จะเกิดพวกกรดยูริกขึ้นเยอะ ไตก็จะต้องกรองสารพวกนี้ขับออกไปทางปัสสาวะ

2.อาจทำให้เป็นโรคกระดูกพรุนได้ หากทำติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากการลดความอ้วนด้วยวิธีนี้ ร่างกายอาจมีการดึงแคลเซียมออกมาใช้งานมากกว่าปกติ

ที่มาจาก fattylose.blogspot.com/

6 เครื่องสำอางห้ามยืม ! อันตรายแน่ ใครเคยยืม เผยตัวซะดีๆ

เครื่องสำอาง ก็เป็นของคู่กันกับผู้หญิงทุกคน วันไหนลืม ก็ลืมเพื่อนกันได้ง่ายๆ แต่สาวๆรู้มั้ยจ้ะ ว่าการยืม เครื่องสำอาง น่ะมันไม่ปลอดภัยเลยนะ แถมยังเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคต่างๆที่คุณเองก็อาจจะคาดไม่ถึงเช่นกัน  ว่าแต่จะมีอะไรบ้างที่เป็น เครื่องสำอางห้ามยืม สุดเสี่ยง  มาดูกันดีกว่า

1.เครื่องสำอาง ที่เกี่ยวกับดวงตา (อายไลเนอร์ , อายแชโดว์ , มาสคาร่า)

เสี่ยง: เยื่อตาอักเสบ

เพราะเยื่อบุผิวที่เป็นเมือกนั้น เป็นเหมือนทางเข้าชั้นดีให้กับแบคทีเรีย เพราะดวงตาไม่ได้มีชั้นผิวป้องกันเหมือนผิวหนังนะเธอ ซึ่งอาจทำให้เหล่าสาวๆ ตาแดงได้ง่ายเลยล่ะ

2.มีดโกน

เสี่ยง : ติดเชื้อผ่านเลือด โรค HIV

มีดโกนนั้นอาจจะมีเลือดติดมาได้ ซึ่งอาจจะทิ้งแบคทีเรียที่คมมีดไว้ แม้จะล้างออกแล้วก็ตาม  อาการติดเชื้อต่างๆนี่ไม่คุ้มกันเลยนะเธอ ยิ่งโดยเฉพาะโรค HIV

3.แปรงแต่งหน้า

เสี่ยง : ติดเชื้อทางผิวหนัง

แบคทีเรียมักจะชอนไขอยู่ในแปรงทาแก้ม แปรงต่างๆ  แปรงมักจะมีความชุ่มชื้นทิ้งไว้ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แบคทีเรียอย่างดี เช่นการทิ้งไว้ในห้องน้ำนี่ต้องบอกเลยว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่ดีเลยล่ะจ้ะ การยืมแปรงคนอื่นนั้น เราไม่มีทางรู้เลยว่า นางเอาแปรงไปเก็บไว้ที่ไหน แล้วปลอดภัยต่อหน้าหรือเปล่า ไม่งั้นล่ะสิวเห่อแน่นอน

 

4.ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกระปุก

เสี่ยง : ติดเชื้อทางผิวหนัง สิว 

ทุกครั้งที่เราทาครีม เราก็มักจะเอามือเข้าไปควักเจ้าครีม หรือ รองพื้น นี่ออกมาใช่ไหมคะ และมือที่เราไม่รู้ว่าไปจับอะไรมาก่อน นั่นล่ะค่ะ แหล่งสร้างแบคทีเรีย และเมื่อเราปิดฝาครีมไปอีก เจ้าแบคทีเรียที่รักความมืด และ สภาวะอากาศชื้นๆ ก็คงชอบใจกันใหญ่ ทางที่ดี พกครีมไปเอง หรือ มั่นใจให้เสมอว่า ตอนหยิบครีมทานั้น มีมือที่สะอาดจริงๆ

5.แปรงทำความสะอาดหน้าไฟฟ้า

เสี่ยง : ติดเชื้อทางผิวหนัง สิว

เดี๋ยวนี้ใครๆก็ฮิตเจ้าแปรงทำความสะอาดหน้านี้ เพราะมันทั้งสะดวกและรู้สึกสะอาดไปถึงรูขุมขน แต่เมื่อทำความสะอาดแล้ว แบคทีเรียจะไปอยู่ไหน ก็อยู่ในแปรงนั่นล่ะจ้า และเมื่อนำมาใช้ต่อ แบคทีเรียก็เข้าสู่รูขุมขนของเรา สิวก็ถามหาแน่นอน และถ้าใครมีอยู่ ก็อย่าลืมเปลี่ยนหัวแปรงทุกๆ สามเดือน นะคะ

6.ลิปสติก

เสี่ยง : หวัด และ โรคเริม

ปากนั้นไม่ใช่ผิวหนังที่จะป้องกันอันตรายจากแบคทีเรียได้ ปากมีความอ่อนโยนมาก ที่จะรับเอาแบคทีเรียเข้าร่างกายได้ อย่ายืม อย่าเผลอไปลองที่เค้าเตอร์กับปากโดยตรงเด็ดขาดนะ

 ที่มา Cosmopolitan 
เรียบเรียงโดย Women Mthai Team 

60 พรรษา ชาวจิตรลดาร่วมใจ เฉลิมพระเกียรติ

60 พรรษา ชาวจิตรลดาร่วมใจ
เฉลิมพระเกียรติ ‘พระเทพ’ สร้างสรรค์ละครเวที

ความสำนึกในพระมหา กรุณาธิคุณที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์บริหารโรงเรียนจิตรลดา ทรงบริหารโรงเรียนด้วยความใส่พระราชหฤทัย รวมถึงพระวิสัยทัศน์กว้างไกลส่งผลให้ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพสู่สังคมมากมายหลายรุ่น ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา และโรงเรียนจิตรลดาก่อตั้งครบ 60 ปี โรงเรียนจิตรลดา เตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติ “เฉลิม 60 พรรษา สยามบรมราชกุมารี ฉลอง 60 ปี โรงเรียนจิตรลดา” คัดเลือกนักแสดงตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา วิชาชีพ นักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา นักเรียนเก่าและผู้ปกครอง 1,000 คน ร่วมแสดงในรูปแบบการแสดงสื่อผสมระหว่างนาฏศิลป์และดุริยางคศิลป์ไทยผสมผสานการแสดงละครเวทีและดนตรีไทยแบบสากล โดยมี เสนีย์ เกษมวัฒนากุล หัวหน้าครูสายดนตรีและนาฏศิลป์ เป็นหัวหน้าฝ่ายศิลปกรรมและฉาก และ นภัสกร มิตรธีรโรจน์ ครูพิเศษสายวิชาดนตรี เป็นผู้กำกับการแสดง

นอกจากนี้ยังมีนักเรียนเก่ารุ่นที่ 6 ดลชัย บุณยะรัตเวช ร่วมเป็นผู้กำกับฝ่ายสร้างสรรค์ กล่าวถึงการแสดงดังกล่าวว่า มีธีมหลักเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์และโรงเรียนจิตรลดา สองสถาบันที่ชาวจิตรลดาเทิดทูนดั่งดวงใจ ความยากของการแสดงในวาระนี้คือการรวบรวมความสามารถหลากหลายด้านนาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ ดนตรีไทย ดนตรีสากล และการแสดงละครเวทีของโรงเรียนจิตรลดา มาแสดงสื่อถึงความรักต่อสถาบันทั้งสอง จึงเกิดเป็นการแสดงในรูปแบบผสมผสานประกอบด้วย 2 องก์ องก์แรกชื่อ “ปฐมพงศ์วงจักรี” แสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลปัจจุบัน เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทั้ง 9 พระองค์ เปิดฉากด้วยการแสดงโขน “เทวสภา” ซึ่งเป็นความเชื่อของไทยว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระนารายณ์อวตารลงมาเพื่อช่วยเหลือโลกมนุษย์

สำหรับไฮไลต์อยู่ที่การแสดง “ชักนาคดึกดำบรรพ์” หรือการ กวนเกษียรสมุทร โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้นำฉาก เครื่องแต่งกายต่าง ๆ ในการแสดงโขนพระราชทานมาใช้ รวมถึง “หุ่นพระพญานาควาสุกรี” ความยาว 18 ม. ที่เคยนำไปจัดแสดงที่สาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี พ.ศ. 2543 โดย อ.สุดสาคร ชายเสม ผู้ออกแบบฉากและอุปกรณ์ประกอบฉากการแสดงโขนพระราชทาน เป็นผู้ออกแบบ ในครั้งนี้ได้ซ่อมแซมและเพิ่มเติมรายละเอียดให้งดงามยิ่งขึ้น ก่อนปิดท้ายองก์แรกด้วยการดำเนินเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละรัชสมัยในรูปแบบละครเพลง โดยนักร้อง นักแสดงมืออาชีพ อาทิ ฉัตรชัย-สินจัย เปล่งพานิช, เกรียงไกร อุณหะนันทน์, ม.ล.ขวัญ ทิพย์ เทวกุล, สุวีระ บุญรอด (คิว วง ฟลัวร์), พิมดาว พานิชสมัย, วรุตม์ พิทักษ์สรยุทธ ฯลฯ ส่วนองก์ที่สองมีชื่อว่า “ดั่งดวงใจ” เป็นการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุด “มัจฉานุกุมารา-ยกรบ” โดยครูนาฏศิลป์-ดนตรี โรงเรียนจิตร ลดา ออกแบบการแสดง ปรับปรุงจัดทำบทจากกรมศิลปากรตั้งแต่ตอนกำเนิดมัจฉานุจนถึงตอนยกรบ สลับกับการแสดงละครเพลงจิตรลดา ปิดท้ายด้วยวงดนตรีมหาดุริยางค์

ท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ อธิการบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา และ ผอ.โรงเรียนจิตรลดา กล่าวว่า ทั้งครู, ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน รวมทั้งผู้ปกครองทุกคนมีความกระตือรือร้นอย่างมากที่จะจัดกิจกรรมเฉลิม 60 พรรษา สยามบรมราชกุมารี ฉลอง 60 ปี โรงเรียนจิตรลดา นอกจากการแสดงแล้วยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนการแสดงจะจัดขึ้น ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา จะเสด็จฯ ทอดพระเนตร ในวันที่ 16-17 มิ.ย.2558 เวลา 17.00 น. สำหรับผู้สนใจจองบัตรและสอบถามข้อมูลได้ที่ห้องประชาสัมพันธ์ โรงเรียนจิตรลดา โดยจะนำรายได้จากการจัดงานทูลเกล้าฯ ถวายสมทบเข้ามูลนิธิสยามบรมราชกุมารี เพื่อโรงเรียนจิตรลดา.

‘รสนิยม-ไวท์ เลเบิ้ล’แบรนด์ไทย

‘รสนิยม-ไวท์ เลเบิ้ล’แบรนด์ไทย
โชว์ฝีมือสร้างสรรค์บนเวทีอินเตอร์

ประกาศความเป็นหนึ่งในฐานะศูนย์กลางแห่งแฟชั่นอันดับหนึ่งของเมืองไทย และอันดับต้น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย สยามเซ็นเตอร์ ร่วมกับ บริติช เคานซิล (ไทยแลนด์) องค์กรส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศด้านโอกาสทางการศึกษา และศิลปะ วัฒนธรรมจากสหราช อาณาจักร สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่สู่วงการแฟชั่นไทย ผนึกกำลังสนับสนุนแบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทย “รสนิยม-ไวท์ เลเบิ้ล” ผงาดสู่เวทีระดับโลกในงาน “เน็กซ์ อิน ไลน์” แฟชั่นโชว์เคสสุดยิ่งใหญ่ประจำปี โดยจัดแสดงผลงานการออกแบบแฟชั่นดีไซน์ของดีไซเนอร์คลื่นลูกใหม่ที่มีผลงานยอดเยี่ยมและมีเอกลักษณ์โดดเด่น 10 แบรนด์ จาก 10 ประเทศทั่วโลก ผ่านผลงานการออกแบบแฟชั่นผสมผสานทางวัฒนธรรมประจำแต่ละชาติที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ และเอกลักษณ์ เฉพาะตัว ภายใต้โครงการ “อินเตอร์เนชั่นแนล แฟชั่น โชว์เคส 2015” ส่วนหนึ่งของงาน ลอน ดอน แฟชั่น วีค 2015

สำหรับผลงานดีไซเนอร์คลื่นลูกใหม่ของไทยที่ถูกนำไปจัดแสดงในครั้งนี้ นำทีมโดย ชนิสา แก้วเรือน ผู้บริหารสยามเซ็นเตอร์ พร้อมด้วย 2 ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์รสนิยม-ไวท์ เลเบิ้ล พงศ์ศักดิ์ กอบรัตนสุข และ ฐิตา กมลเนตรสวัสดิ์ ได้นำผลงานในคอลเลกชั่น “มาลัย” ไปจัดแสดงเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่เบรเวอร์ สตรีท คาร์ พาร์ค ย่านโซโห กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดย ชนิสา กล่าวว่า สยามเซ็นเตอร์เป็นจุดกำเนิดและผู้สร้างความสำเร็จของดีไซเนอร์ไทยมากว่า 40 ปี ผลักดันอุตสาหกรรมแฟชั่นและการออกแบบไทยให้พัฒนาสู่ในระดับเวิลด์คลาส จนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในวง การแฟชั่นระดับสากล สำหรับโครงการนี้เกิดจากการเห็นถึงความสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์และยกระดับแฟชั่นไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างก้าวแห่งโอกาส สำคัญให้แก่ดีไซเนอร์ไทยเลือดใหม่ได้แสดงศักยภาพ ถ่ายทอดจินตนาการ จิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แสดงถึงความสามารถของคนไทยที่เทียบเคียงได้กับอินเตอร์เนชั่นแนลดีไซเนอร์ ให้สมกับคำว่า คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

ดีไซเนอร์มากความสามารถ พงศ์ศักดิ์ กอบรัตนสุข และ ฐิตา กมลเนตรสวัสดิ์ เผยถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบว่า คอลเลกชั่นนี้มีชื่อว่า “มาลัย” มาจากการผสมผสานและตีความความเป็นไทยผ่านสายตาของดีไซเนอร์ ด้วยการดึงเอกลักษณ์ไทยมาสอดแทรกไว้บนชิ้นผ้า ประดับตัดต่อลูกไม้ของวัฒนธรรมตะวันตกได้อย่างแปลกตาทว่าลงตัว โดยประยุกต์วัฒนธรรมจากต่างท้องที่ นำมาใช้ให้กลมกลืนกับความเป็นไทย แต่ไม่จัดวางให้โดดเด่นกว่า การคำนึงถึงสิ่งสำคัญคือ การเลือกใช้วัตถุดิบ และเทคนิค โดยเฉพาะการเลือกใช้วัสดุสีขาวที่ต้องสร้างให้มีมิติเกิดขึ้นในตัวของมันเอง ผลงานจึงค่อนข้างมีเอก ลักษณ์ที่ชัดเจนและเป็นบทพิสูจน์ความสามารถได้อย่างดีเยี่ยมในฐานะดีไซเนอร์รุ่นใหม่.

อัพเดทซัมเมอร์สุดชิค ลุ้นเที่ยวมิลานเมืองแฟชั่น

ช้อปรับหน้าร้อนให้สุขใจแถมได้ไปเที่ยวและช้อปต่อในต่างประเทศ ห้างสรรพสินค้าเดอะ มอลล์, เอ็มโพเรียม และ พารากอน เอาใจขาช้อปแฟชั่นนิสต้าทั้งหลายจัดแคมเปญ “สลุต ซัมเมอร์” (Salute Summer) ระหว่างนี้ถึงวันที่ 19 เม.ย. 2558 โดย ชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว ตลอดจนเปิดโอกาสให้สาว ๆ จัดตู้เสื้อผ้ากับเสื้อผ้าคอลเลก ชั่นใหม่ที่ออกมาในช่วงนี้ แคมเปญสลุต ซัมเมอร์ จึงมอบความพิเศษในการช้อป ด้วยการให้คูปองส่วนลดเงิน สดสูงสุด 40% เมื่อช้อปตั้งแต่ 1,500-12,000 บาท หรือสมาชิกเอ็ม การ์ด สามารถนำคะแนนเอ็ม พ้อยท์ 100-900 คะแนน แลกรับได้เช่นกัน พร้อมรับสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตชั้นนำลดเพิ่ม เงินคืน รับคะแนนสะสมสูงสุด 15 % และที่สำคัญเมื่อช้อปครบทุก 1,000 บาท ยังได้ร่วมลุ้นทริปพิเศษท่องเที่ยวเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี

ในปีนี้เมืองมิลานจัดงานแสดงนิทรรศการ   ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก “งานมหกรรมโลก” หรือ “เอ็กซ์โป” ซึ่งจัดมายาวนานกว่า 163 ปี เป็นเวทีแสดงศักยภาพทางความคิดสร้างสรรค์ และประชันความสามารถแต่ละประเทศในทุกด้าน ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ Feeding the Planet, Energy for Life ว่าด้วยการพูดถึงปัญหาของสารอาหาร และแหล่งทรัพยากรของโลก มีผู้เข้าร่วมแสดงงานกว่า 144 ประเทศ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พ.ค.-31 ต.ค. นี้ ไปงานนี้งานเดียว เหมือนได้ไปเที่ยวทั่วโลก ซึ่งลูกค้าผู้โชคดีที่จะได้ร่วมทริปนี้จะสัมผัสหลากหลายประสบการณ์ที่พิเศษมาก

นอกจากนี้ในงานเปิดตัวแคมเปญยังได้ 2 สาวแฟชั่นนิสต้า ม.ร.ว.จันทรลัดดา ยุคล อุบลเดชประชารักษ์ และ กรุณา วัจนะพุกกะ ร่วมพูดคุยถึงการเตรียมตัวช่วงซัมเมอร์ ทั้งสองสาวเผยว่า ปกติช่วงเดือน มี.ค.–เม.ย. ต้องเตรียมตัวไปเที่ยวอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงก็คือ เสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่ใหม่ ๆ ที่เหมาะกับการท่องเที่ยวช่วงซัมเมอร์ จึงรู้สึกชอบมากเวลาช้อปสินค้าแฟชั่น ช่วงที่ห้างฯ มีการจัดโปรโมชั่น เพราะได้รับความคุ้มค่าจริง ๆ เนื่องจากตัวสินค้าจากแบรนด์ก็ลดราคา และยังได้รับโปรโมชั่นพิเศษจากทางห้างฯ ด้วย เรียกว่าคุ้มเป็นสองเท่า.

น้องอลิส เซ็ตชุดนอนสุดสยิว เซ็กซี่เว่อร์

น้องอลิส เซ็ตชุดนอนสุดสยิว เซ็กซี่เว่อร์

น้องอลิสไอดอลสุดเซ็กซี่ของไทยกับชุดนอนสบายๆ เห็นแล้วสยิวสุด งานนี้แฟนคลับคงมีความสุขกันน่าดูทีเดียว ไม่สวยไม่เซ็กซี่ทำไม่ได้นะครับเนี่ยมีของดีก็ต้องโชว์กันหน่อย

ขอบคุณภาพจาก IG – alicebambam

ที่มา : Kapook

ชุดชั้นใน, นางแบบ, นางแบบชุดชั้นใน, นางแบบเซ็กซี่, น่ารัก, ภาพโป๊, เซ็กซี่, เปลือยอก

น้องโบสาวคัพG พริตตี้ไทยไม่ธรรมดานะครัช

น้องโบสาวคัพG พริตตี้ไทยไม่ธรรมดานะครัช

น้องโบพริตตี้สาวสวยที่ใครๆ ก็ต้องหลงรักอย่างแน่นอนด้วยความน่ารักของเธอบวกกับหุ่นที่เซ็กซี่ขนาดนี้หาตัวจับยากจริงๆ ในเมืองไทย ใครยังไม่รู้จักต้องดูเลยไม่งั้นเสียดายแน่นอน

ขอบคุณภาพจาก IG – mybowlki

ที่มา : Kapook

ชุดชั้นใน, นางแบบ, นางแบบชุดชั้นใน, นางแบบเซ็กซี่, น่ารัก, ภาพโป๊, เซ็กซี่, เปลือยอก

น้องมะนาว ทำไมชื่อนี้มีเอี่ยวกับ เจี๊ยบ เลียบด่วน ต้องมาดู

น้องมะนาว ทำไมชื่อนี้มีเอี่ยวกับ เจี๊ยบ เลียบด่วน ต้องมาดู

น้องมะนาว หรือ น้องมะนาว หงส์แดงแพ้แล้วถอด ที่มีเอี่ยวกับประเด็น เจี๊ยบ เลียบด่วน ปิดเพจแบบไม่ทันตั้งตัว เบื้องลึกเบื้องหลังเค้าไปคุยกันยังไงไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ น้องมะนาว คนนี้ขอบอกว่าเด็ดมาก !

ขอบคุณภาพจาก IG – maaneeyaa
ที่มา : Kapook

ชุดชั้นใน, นางแบบ, นางแบบชุดชั้นใน, นางแบบเซ็กซี่, น่ารัก, ภาพโป๊, เซ็กซี่, เปลือยอก