
‘นิโคลัส ฮอลท์’กับ วายร้ายมาดหล่อ ในหนังไซไฟ ‘เมืองเดือด วัยระอุ’
เรียกได้ว่าเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของนักแสดงหนุ่มหล่อขวัญใจสาว ๆ ทั่วโลก “นิโคลัส ฮอลท์” หลังจากที่เคยรับบทซอมบี้สุดเท่มาแล้ว ล่าสุดเขาจะกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับบทบาทร้ายครั้งแรก ที่ยังคงไว้ทั้งความเท่และเสน่ห์ในภาพยนตร์ไซไฟ แอ๊คชั่นสุดเจ๋งแห่งปี เมืองเดือด วัยระอุ
“เมืองเดือด วัยระอุ” คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกอนาคต วันที่น้ำกำลังจะหมดไปจากโลกท่ามกลางแผ่นดินที่แห้งเหือด ฝุ่นผงตลบอบอวล และโจรร้ายที่ชุกชุม เออร์เนสต์ โฮล์ม ใช้ชีวิตอย่างยากแค้นกับลูกทั้ง 2 เจอโรม และ แมรี่ ด้วยเป้าหมายในชีวิตว่าจะต้องทำทุกวิถีทางให้ที่ดินของเขาฟื้นคืนจากความแห้งแล้งเพื่อดำรงชีวิตรอดต่อไปให้ได้ แต่แล้วชายหนุ่มที่ชื่อว่า เฟลม เลเวอร์ ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับแผนการที่จะยึดครองที่ดินของเออร์เนสท์ จนนำไปสู่เหตุการณ์การเผชิญสุดเข้มข้นเพื่อครอบครอง “แหล่งน้ำ” ที่มีค่ายิ่งกว่าสมบัติใด ๆ ซึ่ง นิโคลัส ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า
อะไรในโปรเจคท์ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ทำให้คุณตัดสินใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมัน ?
“โลกของภาพยนตร์ที่ แจ็ค (พัลโทรว์) สร้างสรรค์ออกมาครับ ผมรู้สึกทึ่งกับการได้เห็นภาพของโลกตะวันตกในอนาคต ที่ส่งผลต่อชีวิตของผู้คน มันให้ความรู้สึกที่อ้างว้าง สิ้นหวัง ซึ่งทำให้ตัวละครแต่ละตัวต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่แปลกประหลาดครับ”
คุณรู้ตัวตอนไหนว่านี่คือโปรเจคท์ที่คุณอยากที่จะทำงานด้วย ?
“ผมคิดว่าน่าจะเป็นตั้งแต่ที่ได้ทำความรู้จักตัวละครของผมครับ มันทำให้ผมคิดในทันทีว่า “ว้าว ผู้ชายคนนี้ทำเรื่องที่เลวร้ายมาก” ซึ่งกระตุ้นให้ผมคิดว่า หากตัวเองต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์แบบเดียวกัน ผมจะเลือกทำแบบเขาไหม เฟลม เป็นคนที่มีหลาย ๆ อย่างแตกต่างจากตัวละครอื่น ๆ ในเรื่อง ซึ่งทำให้ผมรู้สึกท้าทายที่จะลองรับบทนี้ครับ นอกจากนี้ทีมนักแสดงคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นไมเคิล แชนนอน โคดี้ สมิธ แมคฟี และแอล แฟนนิ่ง ก็ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่านี่คือภาพยนตร์ที่ผมอยากจะร่วมแสดงด้วยให้ได้”
ในความเห็นของคุณ เฟลม เป็นวายร้ายตัวจริง หรือเขาทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอด ?
“ผมไม่คิดว่าเขาเป็นคนที่เลวร้ายครับ คุณไม่สามารถที่จะมองตัวละครตัวหนึ่งด้วยแง่มุมเดียวได้ ผมเชื่อว่าเขารักแมรี่จริง ๆ และพยายามที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดภายใต้สถานการณ์ที่บังคับ แม้ว่าบางครั้งผลลัพธ์ที่ออกมาจะไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายสุดขั้ว ทุกคนต่างก็ต้องเคยทำสิ่งที่ไม่ดีกันบ้างทั้งนั้น แค่เขาทำมันเยอะกว่าคนอื่นไปหน่อย (หัวเราะ)”
ได้ยินมาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในแอฟริกาใต้ เล่าให้ฟังเกี่ยวกับการถ่ายทำเรื่องนี้หน่อยได้ไหม ?
“มันยากมากครับเราใช้เวลาถ่ายทำกันถึง 5 สัปดาห์ มันทั้งร้อน ทั้งยาวนาน ซึ่งทำให้งานที่ทำยากขึ้นไปอีก แต่ทุกคนก็เลือกที่จะเดินหน้าทำงานกันต่อ แล้วก็ดื่มน้ำเยอะ ๆ ครับ (หัวเราะ) สถานที่ถ่ายทำของเราสวยงามมาก ซึ่งผมคิดว่ามันมีส่วนสำคัญอย่างมากในการถ่ายทอดเรื่องราวให้ออกมาสมบูรณ์แบบได้”
มีฉากไหนมั้ย ที่ยากเป็นพิเศษในการถ่ายทำ ?
“มีฉากหนึ่งในช่วงท้ายของภาพยนตร์ที่ผมต้องลงไปอยู่ในหลุม มันค่อนข้างยากมากครับ เพราะในฉากนั้นผมจะต้องมีบทพูดยาวถึง 3 หน้า ท่ามกลางแสงแดด และอากาศที่ร้อนระอุ มันถือเป็นวันที่หนักที่สุดสำหรับผมเลย”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น