
ด้านชงโคก็ว้าวุ่นใจมาก เมื่อมารอตรวจเลือดที่คลินิกนิรนาม โดยมีหนูมาลีมาเป็นเพื่อน หนูมาลีพยายามปลอบใจให้เพื่อนคลายกังวล หลังผลตรวจออกมาทุกคนต่างก็ดีใจ เพราะชงโคไม่ได้ติดโรคอย่างที่เป็นกังวล ขณะที่สื่อก็ประโคมข่าวเรื่องการสอบพยานหลายปากจนทำให้วานิชดิ้นไม่หลุด ต้องเข้าคุก ปิดกิจการเลดี้ชาร์ล็อต อย่างถาวร
“เย้ ๆ ๆ” ทุกคนดีใจมาก
“พี่โรส หนูกับเกดจะเริ่มต้นชีวิตใหม่เหมือนร้านนี้ ทุกอย่างต้องไปได้ดีเหมือนร้านของเรา” หนูมาลีบอกพ่อ โรสกอดสองสาวไว้ “ใช่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ เย้ ๆ”
ทุกคนดีใจมีความสุข ยกเว้นโรสที่ดวงตาเศร้าลง เมื่อนึกถึงอาการป่วยของตัวเอง
ตอนที่ 25
โยทะการู้เรื่องที่เบลทำสารพัดวิธีสกปรกเพื่อให้คู่แข่งประกวดร้องเพลงมีเรื่องเสียหายจนทำให้คะแนนตก รู้สึกหดหู่เพราะตนเองก็ทำอะไรไม่ได้ จึงขอลาออกแต่เมืองแมนไม่ยอม เพราะขาดโยทะกางานที่สถานีต้องล่มแน่ ด้านเบลยังคิดหาวิธีกำจัดคู่แข่งต่อไป แต่ก็ยังไม่เห็นทาง เพราะภูมิไม่มีจุดอ่อนให้โจมตี ข่าวเรื่องทิมมี่ทำผู้หญิงท้องก็เคลียร์แล้ว คะแนนก็เริ่มกลับมาดี ขณะที่หนูมาลีก็มีข่าวเรื่องคอนเซปต์ร้านใหม่ของโรสที่ออกข่าวทุกวัน ยิ่งทำให้คะแนนหนูมาลีดีขึ้นทุกวันเช่นกัน
เบลส่งคนไปก่อกวนร้านเพื่อให้เสียหาย และขู่ให้หนูมาลีลาออกจากการแข่งขันในรอบชิง หนูมาลีรับปากยอมลาออกอย่างง่ายดายโดยที่ทุก คนก็แปลกใจ แต่ที่ร้อนใจที่สุดก็เห็นจะเป็นทองทา เพราะรู้ว่าการเป็นนักร้องเป็นความฝันของหนูมาลี แต่ที่จะทิ้งไปเพราะโยทะกา ทองทาถึงกับประกาศตัดพี่ตัดน้องกับเบลเลย เพราะเบลใช้วิธีอัดคลิปการประกาศลาออกจากการแข่งขันของหนูมาลี และส่งไปเพื่อให้สถานีออกอากาศ แต่ก็ถูกเมืองแมนระงับไว้ได้ทัน และยังสั่งเด็ดขาดเพราะต้องการให้การแข่งขันเป็นไปด้วยความขาวสะอาด เบลเจ็บใจมากเพราะเมืองแมนไม่กล้าขัดใจตนเองมาก่อน
ทองทามาพบแซนดี้เพื่อให้ช่วยเหลือเรื่องหนูมาลีลาออก แซนดี้มาพบหนูมาลีที่ร้านพร้อมกับถามถึงเหตุผลที่ลาออก หนูมาลีบอกตนเองสู้ไปก็เท่านั้น เพราะคนที่ชนะก็คือเบล ลูกสาวเจ้าของสถานี แซนดี้รู้ดีว่าหนูมาลีไม่มีกำลังใจที่จะสู้ต่อ
“เธอคิดว่าที่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้เพื่อการเป็นผู้ชนะหรือ เรามีชีวิตทุกวันนี้เพื่อ “นาทีที่ยิ่งใหญ่” ต่างหาก” แซนดี้บอก หนูมาลีไม่เข้าใจว่าคืออะไร “ก็แล้วแต่ ชนะประกวด รับปริญญา รับเงินเดือน ยืนบนหน้าผาที่ปีนขึ้นมาอย่างยากลำบาก อะไรก็ได้”
“แล้วแต่แต่ละคน แต่ละช่วงเวลาของชีวิต” หนูมาลีพึมพำออกมา แซนดี้พยักหน้ามองไปที่เวทีที่กำลังมีลูกค้าร้องเพลงอยู่
“ลูกค้าร้านนี้หลายคนร้องเพลงได้ดีกว่าคนที่มาแข่งขัน เพราะอะไรรู้ไหม เขากำลังมีนาทีที่ยิ่งใหญ่ ได้เป็นซุปตาร์ต่อหน้าเพื่อนและญาติของเขาบางทีแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ชีวิตไม่ต้องชนะตลอดเวลา แต่ขอให้ได้เข้าร่วม ได้เป็นส่วนหนึ่งของนาทีที่ยิ่งใหญ่ก็พอแล้ว”
แซนดี้ขึ้นร้องเพลงพลางนึกถึงนาทีที่ยิ่งใหญ่ของตนเองเมื่อเริ่มเข้าสู่วงการ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสุข ทองทาเดินเข้ามาขอหนูมาลีเต้นรำ พร้อมกับบอกว่าเขาเคยเบื่อชีวิตทั้งที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ชื่อเสียง แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่านาทีที่ยิ่งใหญ่คือหนูมาลีที่อยู่ตรงหน้า “อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตนะหนู ตอนนั้น พี่ไม่เคยเห็นภาพตัวเองเป็นครูสอนใครเลย แต่พอนานไป พี่รู้สึกสนุก อยากแต่จะหาวิธีทำให้ลูกศิษย์ชนะ”
“ถ้าหนูเลิก พี่คงเสียใจ” หนูมาลีพูดออกมา ทองทาพยักหน้า “ปลูกต้นไม้ เหมือนปลูกสร้างคน นาทีที่ยิ่งใหญ่ อยู่ที่ดูต้นไม้ อยู่ที่ดูลูกศิษย์ของเราเติบโต รับปากพี่นะ...ไปแข่งรอบสุดท้าย อย่าลาออก ไปแข่งเพื่อพี่”
หนูมาลีจำนนต่อเหตุผล พยักหน้า แต่ก็เป็นห่วงเรื่องคลิปที่เบลอัดไป ทองทาบอกเขาไม่เห็นสถานีออกอากาศ ทำให้หนูมาลีงงว่าทำไมเบลไม่เอาออกอากาศ
เบลและบุญฑริกมาอาละวาดจ๋าที่คอนโดฯเมืองแมน จ๋าบอกเมืองแมนไม่ได้มาหาตนเองแล้ว เพราะไปติดผู้หญิงคนใหม่ เบลยิ่งแค้นเพราะผู้หญิงคนใหม่ที่จ๋าบอกคือหนูมาลี เมืองแมนมาหาหนูมาลีที่ร้านและบอกให้กลับไปประกวดเพราะเขาสั่งหยุดเผยแพร่คลิปนั้นแล้ว แถมยังจะปั้นให้หนูมาลีเป็นนางเอกเอ็มวีด้วย
ทองทาต้องการให้โยทะกากลับมามีไฟในการดำเนินชีวิตและทำงานอีกครั้งจึงพาไปหาช้องนาง โยทะกาเห็นช้องนางก็สะท้อนใจ เพราะตนเองเป็นคนทำให้ช้องนางเป็นอย่างนี้ ทองทาบอกที่ช้องนางต้องมีสภาพอย่างนี้เพราะต้องการครอบครองและยึดเหนี่ยว เหมือนกับโยทะกาตอนนี้ที่ยึดเหนี่ยวกับเมืองแมนเพียงคนเดียว ทองทาที่ผ่านมาเขาอยู่กับแม่ที่ซึมเศร้า ไม่มีอะไรยึดเหนี่ยว ไม่มีทั้งพ่อและแม่จึงตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเดียว แต่โยทะกาบอกว่าตนเองไม่มีอะไรแล้ว เพราะหนูมาลีก็ไม่ยอมรับ ทองทาจึงอยากขอเวลาให้หนูมาลีหายสับสนก่อน แต่ก่อนอื่นต้องตัดใจจากเมืองแมนก่อน
เบลวางแผนทำให้เมืองแมนเข้าใจผิดว่าหนูมาลีมีใจให้เมืองแมน ด้านโยทะกาตัดสินใจขอหย่าจากเมืองแมน เมืองแมนไม่ยอมถึงกับตบโยทะกา ด้านซีโร่ไม่มีชื่อเสียงเหมือนเดิม เริ่มถูกคนลืม งานก็แทบจะไม่มีจึงคิดที่จะหาวิธีสร้างข่าวกับหนูมาลีเพื่อให้ชื่อเสียงกลับมาอีกครั้ง เพราะตอนนี้กระแสหนูมาลีกำลังดัง ซีโร่แอบเข้ามาในห้องแต่งตัวตอนที่หนูมาลีเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อถ่ายเอ็มวี โดยให้พิสมัยเป็นคนถ่ายคลิป แต่โรสเข้ามาช่วยไว้ทัน และหลุดปากยอมรับว่าต้องการสร้างข่าวเพื่อชื่อเสียง ตามที่ทองทาเคยเตือนไว้ไม่มีผิด หนูมาลีโกรธจึงออกไปบอกนักข่าว แม้ซีโร่จะโกหกแก้ตัวอย่างไรแต่หลักฐานก็มัดแน่นจนต้องสารภาพออกมา
ทองทายังหนักใจเพราะพรุ่งนี้หากข่าวออกไปหนูมาลีจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่หนูมาลีและทองทาก็ต้องตกใจ เพราะจู่ ๆ โรสก็หมดสติไป เพราะอาการกำเริบ ปวดท้องหนัก ทั้งสองรีบพาโรสส่งโรงพยาบาลและโทรฯบอกบอย ก่อนที่ทั้งสามจะตกใจ เศร้าใจเมื่อรู้จากหมอว่าโรสเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งปี และยิ่งเสียใจมากเมื่อรู้ว่าที่โรสไม่ยอมรักษาตัวเอง เพราะต้องการเก็บเงินไว้ส่งให้หนูมาลี และเอาไว้เลี้ยงลูกน้องในคาราโอเกะ
ข่าวที่ออกมาวันรุ่งขึ้นทำให้ซีโร่ตายสนิท ซีโร่ถูกแซนดี้บังคับให้ประกาศลาออก ซีโร่สำนึกตัว แซนดี้ให้กำลังใจว่าให้เริ่มชีวิตใหม่โดยทำงานเบื้องหลังแทนที่จะเป็นศิลปินหน้าเวที
โยทะกายังนั่งเศร้าเพราะยังตัดขาดเมืองแมนไม่ได้ ทองทามาหาและปิดเรื่องที่โรสเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย จู่ ๆ โยทะกาก็ลุกขึ้นมาทำโน่นทำนี่ ไม่นั่งเหม่อเหมือนเดิม เพราะรู้แล้วว่าที่โรสต้องการให้โยทะกาและหนูมาลีเปิดใจให้กัน เพราะต้องการให้โยทะกาดูแลหนูมาลี หากวันหนึ่งโรสไม่ได้ดูแล
โยทะกามาหาโรสที่ร้าน พบว่าทุกคนกำลังเกลี้ยกล่อมโรสให้รักษาตัว โดยทุกคนจะช่วยหาเงินค่ารักษาให้ โยทะกาบอกว่าตนเองจะออกค่ารักษาเองแต่โรสไม่ยอม เพราะไม่อยากเป็นหนี้ใคร โยทะกาเลยโพล่งออกมาว่าตนเองไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นแม่ของหนูมาลี ทุกคนอึ้งอ้าปากหวอเพราะไม่รู้เรื่องมาก่อน หนูมาลีขอร้องพ่อทำให้โรสยอมรักษาตัว ทำให้หนูมาลีรู้สึกดีกับโยทะกาขึ้นมาก เพราะโยทะกาก็ไม่ได้เร่งรัดเรื่องความสัมพันธ์แม่ลูกแต่อย่างใด ด้านการะเกดเห็นใจอธิที่หวังดีและช่วยเหลือตนเองมาตลอด จึงตัดสินใจยอมเปิดใจ สร้างความดีใจให้กับอธิเป็นอย่างมาก
บอยยังคอยให้กำลังโรสตลอดเวลาด้วยความเข้าใจ นักข่าวมาทำข่าวที่ร้านโรส โรสตัดสินใจเปิดเผยกับนักข่าวว่าตนเองเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เบลแค้นมากเพราะยิ่งมีข่าวโรส หนูมาลีก็ยิ่งดัง คะแนนโหวตก็ยิ่งดี เพราะประชาชนเห็นใจอยากให้หนูมาลีได้เงินล้านจากการแข่งขันไปรักษาพ่อ ทำให้คะแนนโหวตของหนูมาลีตีตื้นขึ้นมาเป็นอันดับสองรองจากภูมิเท่านั้น
แม้คะแนนจะขึ้นมาเป็นอันดับสอง แต่หนูมาลีก็ยังหมดกำลังใจเพราะกังวลเรื่องโรส จนโรสต้องพูดกับลูกสาว
“แกรู้ไหม นาทีที่ยิ่งใหญ่ของพ่อคืออะไร” โรสเอากล่องเก่า ๆ ออกมาจากที่ซ่อน กล่องที่หนูมาลีเคยเห็น “กล่องที่แกอยากรู้ว่ามันคืออะไร จดหมายของหนู ตลอดสิบปี พ่อเก็บไว้ทุกฉบับเลย เป็นโรคที่ไม่มียารักษา มันทรมานนะ ยาแก้ปวดบางทีก็ช่วยไม่ได้ เวลาที่พ่อป่วย พ่อนั่งเขียนเพลง พ่อนั่งอ่านจดหมาย พ่อไม่เคยเขียนจดหมายตอบแก เพราะมันเยอะจนไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร พ่อเลยเขียนมันขึ้นมาเป็นเพลง”
โรสนึกถึงตอนที่ตนเองต้องเริ่มเผชิญกับโรคมะเร็ง และเป็นช่วงที่ต้องหล่อเลี้ยงตัวเองด้วยการแต่งเพลงให้กับหนูมาลี หนูมาลีกอดพ่อร้องไห้ โรสบอกให้หนูมาลีเปลี่ยนความกังวลที่โรสเจ็บป่วยมาเป็นพลัง เหมือนกับที่ตนเองเคยทำ โรสบอกจะเข้ารับเคมีบำบัดเพื่อรักษา ส่วนหนูมาลีก็ต้องไม่หยุดใช้ชีวิต ประกวดร้องเพลงให้ดีที่สุด หนูมาลีพยักหน้า ทองทาซาบซึ้ง มั่นใจว่าพรุ่งนี้ชัยชนะจะต้องเป็นของหนูมาลี
ตอนอวสาน
ในคอนเสิร์ตรอบสุดท้าย ตัดสินว่าใครจะได้เป็น “เดอะซูเปอร์สตาร์ซีซั่นสอง”
ทองทาไม่ได้มารับหนูมาลีไปสถานีเพราะติดงานโปรโมตเพลง บอยก็ต้องดูแลโรส หนูมาลีจึงนั่งแท็กซี่ไปเอง โดยที่ไม่ได้รู้ว่า เบลจ้างให้คนมาปลอมเป็นคนขับแท็กซี่และโปะยาสลบและพาตัวหนูมาลีไปไว้ที่คอนโดฯเมืองแมน และเบลก็สร้างแผนหลอกให้เมืองแมนไปเจอหนูมาลี เมืองแมนซึ่งคิดว่าหนูมาลีมีใจให้เพราะแผนก่อนหน้านี้ของเบล
ทองทาโทรฯหาหนูมาลีแต่ไม่มีคนรับสายก็แปลกใจ จ๋าเสียใจที่ถูกเมืองแมนทิ้งและไล่ออกจากคอนโดฯจึงโทรฯไประบายกับโยทะกา โยทะกาตกใจมากที่รู้ว่าผู้หญิงคนใหม่ที่เมืองแมนสนใจคือหนูมาลี และว่าหนูมาลีนัดพบเมืองแมนเพราะต้องการชนะในการแข่งขันคืนนี้ โยทะการีบโทรฯบอกทองทาเรื่องที่เมืองแมนหลอกหนูมาลีไปที่คอนโดฯทองทาไม่สนใจงานแล้วรีบออกไปทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น