
“ก็เพราะอะไรล่ะเนื้อนาง ผมเห็นด้วยตาผม คุณนอนกอดไอ้ธรรพ์น้องชายผม ที่เรือนในปาง วิมานฉิมพลีของคุณกับไอ้ธรรพ์” ณไตรเค้นเสียงลอดไรฟัน
“เนื้อนางไม่ใช่กากี ผู้หญิงมากชู้หลายผัวอย่างที่คุณประณาม เนื้อนางไม่ใช่ฆาตกรฆ่าคุณแขไข”
“ก็ถ้าคุณจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ทุกอย่าง นี่คือโอกาสสุดท้าย คุณต้องอยู่ที่นี่ แล้วสารภาพความจริงว่าเมื่อ 5 ปีก่อน เกิดอะไรขึ้น” ณไตรคาดคั้น
“เนื้อนางพูดไปหมดแล้ว เนื้อนางมาที่นี่เพื่อเห็นหน้าคุณหนู ไม่ได้มาเพื่อเปลี่ยนความคิดของคนใจดำทุกคนที่บ้านหิมวัต”
เนื้อนางพูดจบก็เดินออกไป เห็นอัศดายุเล่นอยู่ เนื้อนางจะเข้าไปอุ้ม แต่อรอนงค์เข้ามาดึงอัศดายุไว้ เนื้อนางก็แปลกใจ
“นี่เหรอคะเนื้อนาง ที่ทุกคนในบ้านบอกว่าเป็นผู้หญิงที่ทำร้ายเมียพ่อเลี้ยง”
อรอนงค์ถามท่าทางไม่เป็นมิตร เนื้อนางหน้าเสีย
“ครูอรอนงค์ครับ ผมไม่ต้องการพูดเรื่องนี้ต่อหน้าอัศดายุ”
ณไตรที่เดินตามออกมาตำหนิอรอนงค์ทันที
“อรขอโทษค่ะ”
เนื้อนางเห็นสายตานิ่งขึงของอรอนงค์ ก็ปรารภขึ้นเบา ๆ
“เนื้อนางเคยเป็นแม่นมของคุณหนู”
“ฉันทราบแล้วค่ะ แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว คุณอัศดายุเองก็คงจำไม่ได้ ถึงไม่ยอมเข้าใกล้คุณ” อรอนงค์ยิ้มเยาะ
“คุณไม่รู้อะไร ครูอรอนงค์ พวกเราที่นี่นับวันนับคืน รอเนื้อนางกลับมาทั้งนั้น”
ธรรพ์เดินเซออกมาเอ่ยเยาะ ๆ ณไตรหันมองธรรพ์อย่างไม่พอใจ แล้วรีบบอกให้อรอนงค์พาอัศดายุไป เนื้อนางขยับจะตามอัศดายุไป แต่ณไตรเข้ามาดึงแขนเนื้อนางไว้
“อย่าเข้าใกล้อัศดายุ” ณไตรบอกเนื้อนาง
“พี่ณไตรไม่ต้องกีดกันเนื้อนางกับอัศดายุหรอกครับ ยังไงอัศดายุก็เคยโตมาเพราะน้ำนมของเนื้อนาง” ธรรพ์ดักคอ
“แกหุบปาก แล้วเอาสารรูปขี้เมาหยำเปของแกออกไปให้พ้นสายตาฉันดีกว่า หรือว่า...มารอร่ำลากัน” ณไตรถามเยาะ ๆ
เนื้อนางเห็นสายตาหยามหยันของณไตรก็นึกเจ็บใจ
“ความคิดคุณก็ไม่พ้นเรื่องบัดสี”
“จะให้ฉันคิดยังไงได้อีก คนสองคนที่ร่วมมือกันหักหลังฉัน แล้วยังปากแข็งทั้งคู่”
ณไตรมองเนื้อนางกับธรรพ์ ด้วยสายตาคับแค้นใจต่อเรื่องในอดีต
“กี่ปีกี่ปี...พี่ก็คิดได้แค่นี้ ผมกับเนื้อนางคบชู้ กินบนเรือนขี้รดบนหัวพี่” ธรรพ์เอ่ยอย่างอัดอั้นตันใจ
“ไอ้ธรรพ์” ณไตรพุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อ ธรรพ์
“อยากชก อยากเตะผมก็เอาเลย ชีวิตผมมันด้านชากับความเจ็บปวดทุกอย่างแล้ว”
ธรรพ์ท้าทาย
“ชกคุณธรรพ์จนตาย เนื้อนางกับคุณธรรพ์ก็ยังไม่พ้นมลทิน เนื้อนางก็ยังเป็นผู้หญิงหลายใจที่นอนกับน้องชายคุณ...ถ้าอย่างนั้น เนื้อนางก็ขอเปลี่ยนใจ ในเมื่อตราบาปมันติดตัวเนื้อนาง ไม่ว่ากี่ปี ๆ ก็ลบล้างไม่ได้ เนื้อนางก็จะอยู่ที่นี่ อยู่ที่หิมวัต อยู่รอให้คุณเอาตำรวจมาจับ เนื้อนางอยากให้เรื่องคุณแขไขถูกฆ่า สอบสวนใหม่อีกครั้ง”
เนื้อนางตัดสินใจแน่วแน่ที่จะอยู่สู้กับข้อกล่าวหาทั้งหมด...เนื้อนางตั้งใจจะอยู่ที่บ้านหิมวัต แต่ณไตรกลับพาเธอกลับไปอยู่เรือนหอที่ปางไม้ แล้วในคืนนั้นเธอก็ถูกผีแขไขหลอก พยายามบีบคอเธอ ทำให้เชื่อว่ามีคนต้องการทำร้ายเธอ ซึ่งไม่ใช่ผีแน่นอน
ความจริงแล้ว คนที่หลอกเป็นผีแขไขคือบุญลือ และเมื่อวันดีรู้ว่าน้องชายทำงานพลาดก็ไม่พอใจมาก
“เรื่องง่าย ๆ แค่ฆ่านังเนื้อนาง ทำไมถึงทำไม่สำเร็จ”
“มันไม่กลัวผี แถมยังมีอีคำฝายแล้วก็พวกพ่อเลี้ยงมาช่วย”บุญลือบอกอย่างเจ็บใจ
“ตอนนี้มันยกโขยงไปที่ปางกันหมด...ก็คงจะเรื่องผีแขไข...บุญลือ แกต้องหาทางใช้ผีแขไขฆ่าปิดปากนังเนื้อนางให้เร็วที่สุด ก่อนที่มันจะรื้อฟื้นเรื่องคืนนั้นขึ้นมา” วันดีสั่งกำชับด้วยแววตาโหดเหี้ยม
อรอนงค์ได้ยินข่าวผีแขไขอาละวาดที่ปางไม้ จึงชวนธรรพ์ขึ้นมาที่ปาง และฉวยโอกาสนี้เดินสำรวจในป่า จนได้เห็นแสงคำที่ถือปิ่นโตเข้าไปในป่า ทำให้เธอแปลกใจมาก จึงสะกดรอยตามไปแต่ไม่สำเร็จ...ส่วนธรรพ์ไปถามเนื้อนางเรื่องผีแขไข เนื้อนางซึ่งรู้เรื่องจากม่อนดอยว่าหลังจากแขไขจากไปธรรพ์ก็กลายเป็นคนติดเหล้า
“เนื้อนางรู้ว่าคนที่ทรมานใจที่สุด เพราะคุณแขไขหายไป ก็คือคุณธรรพ์” เนื้อนางจับไหล่ธรรพ์อย่างเตือนสติ
“ฉันเสียแขไข เสียทั้งลูก อัศดายุไม่เคยเรียกฉันว่าพ่อเลย” ธรรพ์คร่ำครวญน่าสงสาร
“โธ่! คุณธรรพ์”
“บาปกรรมใช่มั้ย บาปกรรมที่ฉันไม่พูดความจริง ฉันถึงต้องเสียทั้งเมีย ทั้งลูกสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตฉัน”
ธรรพ์ร้องไห้ ซบลงที่ไหล่เนื้อนางอย่างเหนื่อยล้ากับชีวิต
“ถ้าฉันเชื่อเธอตั้งแต่ตอนนั้น พูดความจริงกับทุกคน ไม่ยอมให้พี่ณไตรเป็นพ่ออัศดายุ วันนี้ฉันก็จะมีทั้งเมีย ทั้งลูก แขไขก็คงไม่ตาย”
เนื้อนางลูบหลังธรรพ์ปลอบเบา ๆ ณไตรเห็นภาพนั้นก็โกรธพุ่งกระชากร่างธรรพ์ออกมาเหวี่ยงลงไปกองกับพื้นสะพาน
“ผู้หญิงชั่ว ผู้ชายมันก็เลว สุดท้ายมันก็อดไม่ได้ที่จะลอบมาสมสู่กันอีก”
“หยุดบ้าสักที”
ณไตรสะบัด แต่เนื้อนางไม่ยอมดึงไว้แน่น
“นั่นน้องชายคุณนะหนานไตร หรือว่าจะฆ่าสายเลือดเดียวกันให้ตายคามือ”
ธรรพ์พยุงตัวลุกขึ้น เลือดทะลักออกจากปาก ธรรพ์มองพี่ชายแล้วโงนเงนล้มลง...ธรรพ์สลบไม่ได้สติ ถูกคนงานหามมาวางลงที่เก้าอี้ยาวบนเรือนสำนักงาน เนื้อนางหยิบผ้าชุบน้ำจะเช็ดหน้าให้ธรรพ์ แต่ณไตรกระชากผ้ามาจากมือเนื้อนาง
“ไม่ต้อง ฉันเช็ดเอง...ธรรพ์ มันไม่เป็นอะไรหรอก ยังไม่ตายง่าย ๆ ต้องอยู่ทรมานกันอีกนาน”
“เค้าเป็นน้องชายคุณนะ”
“เพราะเป็นน้อง มันถึงเจ็บมากกว่าเป็นคนอื่น...กลับไปเรือนได้แล้ว ถ้าเธอยังมองมันด้วยสายตาเป็นห่วงอีก ฉันอาจจะเปลี่ยนใจฆ่าไอ้ธรรพ์ให้ตายอยู่ตรงนี้”
เนื้อนางเห็นแสงคำชอบเข้าไปทำลับ ๆ ล่อ ๆ ที่ในป่า ทำให้เธอสงสัย แต่เมื่อพยายามคาดคั้นถามแสงคำก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอก เธอจึงแอบเข้าไปดูด้วยตัวเอง จนถูกบุญลือและลูกน้องหลอกล่อไปที่หน้าผา พอเนื้อนางวิ่งตามมาก็ถูกผลักตกเหว แต่โชคดีที่ณไตรช่วยไว้ทัน และอุ้มพาเนื้อนางกลับมาที่เรือนหอ
“พ่อเลี้ยงเชื่อเนื้อนางมั้ย ไม่ใช่ผีแขไขที่ผลักเนื้อนางตกลงไป” เนื้อนางถามตรง ๆ
“ผมเชื่อว่าที่นี่ไม่มีผีแขไข เนื้อนาง...คุณสงสัยใครบ้าง”
“เสียดาย เนื้อนางไม่ทันเห็นหน้ามัน”
“เรื่องนี้ผมจะจัดการเอง ตอนนี้ห่วงตัวเองก่อน เจ็บตรงไหนหรือเปล่า..ตอนผมเห็นคุณ ที่เหว เนื้อนาง ผมอยากจะฆ่าคนที่มันทำร้ายคุณ”ณไตรเอ่ยอย่างเจ็บปวด
“ตอนนั้น...เนื้อนางกลัว”
“ผมจะลากตัวไอ้ชั่วนั่นมาให้ได้ ไม่ต้องกลัวนะครับ”
ณไตรสวมกอดเนื้อนางไว้ด้วยความรัก ความเป็นห่วงอย่างที่สุด จนลืมความโกรธความคลางแคลงใจไปจนหมดสิ้น
ด้านแม่นายกลับมาจากพระนครและรู้เรื่องเนื้อนางกลับมาที่ปางไม้ก็ไม่พอใจมาก เมื่อบีบให้ณไตรไล่เนื้อนางไปไม่ได้ แม่นายก็วางแผนเล่นงานเนื้อนาง โดยการให้อรอนงค์ไปตามณไตรมาพบ...ขณะที่ณไตรลงมาคุยกับแม่นายที่ในเมือง คืนนั้นเนื้อนางก็ถูกผีแขไขบุกเข้ามาบีบคออีกครั้ง จนเนื้อนางหมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมาเธอก็ยืนยันกับทุกคนว่าผีแขไขที่มาบีบคอเนื้อนางเมื่อคืนที่ผ่านมา มีหน้าตาเหมือนแขไขจริง ๆ
“หน้าตาเหมือนแขไข เนื้อนาง ตั๋วแน่ใจนะว่าตาไม่ฝาด”คำฝายประหลาดใจ
“เนื้อนางไม่มีวันลืมหน้าคุณแขไข เค้าบีบคอ แล้วก็จะฆ่าเนื้อนาง...จริง ๆ นะ อ้ายแสงคำ”เนื้อนางยืนยัน
“เป็นไปไม่ได้หรอกเนื้อนาง ผีที่เที่ยวหลอกไปทั่ว หน้าตามันไม่ใช่แขไข”แสงคำส่ายหน้า
“แต่เนื้อนางเห็นกับตานะ อ้ายแสงคำ ผีหน้าตาเหมือนคุณแขไข แววตาก็ใช่”
“ตกลงยังไงกันแน่ มีผีแขไขสองตัว” ม่อนดอยปรารภงง ๆ
“คำฝาย ม่อนดอย ดูเนื้อนางไว้ ฉันต้องไปรายงานพ่อเลี้ยง”
ว่าแล้วแสงคำก็รีบไปบอกณไตรที่กำลังขับรถกลับมาที่ปางพอดี
“เมื่อคืนผีแขไขออกมาหลอกเนื้อนางอีกแล้ว”
“เนื้อนางเป็นอะไรหรือเปล่า”
“มีรอยถูกบีบคอ ตอนนี้คำฝายดูอยู่ แต่ที่ผมต้องรีบมาบอกพ่อเลี้ยงก่อน เพราะเนื้อนางยืนยันว่า ผีที่เห็นหน้าตาเหมือนแขไข” แสงคำบอกเสียงเครียด
“บ้าเอ๊ย! ขึ้นรถมาเลย แสงคำ” ณไตร ร้องสั่ง ก่อนจะรีบขับรถไปตามหาแขไขในป่า
ความจริงแล้วแขไขยังไม่ตาย แต่กลายเป็นบ้า โชคดีที่แสงคำไปพบแขไขเมื่อหลายปีก่อนเข้า จึงร่วมมือกับณไตรคอยดูแลแขไขเอาไว้ หวังว่าเมื่อแขไขหายจากอาการฟั่นเฟือนความจำเสื่อม ทุกคนก็จะได้รู้ความจริงจากปากของเธอ ซึ่งณไตรและแสงคำจำต้องขังแขไขไว้ในกระท่อมกลางป่า แต่เมื่อแขไขหนีออกมาได้จึงวิ่งเตลิดเข้าไปในปางไม้และทำร้ายเนื้อนางเพราะจิตใต้สำนึกที่มีนั่นเอง
ในที่สุด ณไตรกับแสงคำตามหาแขไขจนพบ และพากลับมาที่กระท่อมกลางป่า
“แขไข เมื่อคืนคุณออกไปหาเนื้อนางมาใช่มั้ยครับ...คุณไปเจอเนื้อนางมาแล้ว ”
ณไตรพยายามหลอกถาม แขไขแววตาเลื่อนลอย ทวนคำของณไตร
“เนื้อ...นาง...พวกแกจะฆ่าฉัน ”แขไขกรีดร้องออกมา
“ไม่ได้ฆ่า แขไข เรากำลังช่วยคุณ”
เมื่อจับแขไขมัดไว้แล้ว แสงคำก็ไปตามหมอเทพทัตมาดูอาการเธอ เพราะตลอดเวลาที่แขไขอยู่ในกระท่อม หมอเทพทัตก็มาดูแลรักษาเธอตามคำขอของณไตร
ด้านบุญลือที่เห็นตอนแขไขทำร้ายเนื้อนาง จึงรู้ว่าแขไขยังไม่ตายและรีบมาบอกวันดีได้รู้
“บ้าจริง ๆ หยุดเรื่องเนื้อนางไว้ก่อน แกไปตามหาให้แน่ใจว่าที่แกเห็น มันเป็นนังแขไขจริง ๆ แล้วถ้ามันยังมีลมหายใจ ก็รีบฆ่ามัน ไม่งั้นแกกับฉันจะต้องเข้าคุกแทนเนื้อนาง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น