เปิดตู้เสื้อผ้า ‘โบว์ลิ่ง’ ดูการแต่งตัวฉบับนางงาม - สตาร์เทรนดี้
“นางงาม” เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งการประกวด ที่ถูกคาดหวังต่อการปรากฏตัวในแต่ละครั้งว่าต้องสวย เลอค่า สตาร์เทรนดี้สัปดาห์นี้ เลยขอแอบไปเปิดตู้เสื้อผ้าของสาว โบว์ลิ่ง-ปริศนา กัมพูสิริ นางสาวไทยประจำปี 2555 ที่ตอนนี้ผันตัวเองมาขึ้นแท่นพิธีกรรายการ “เกมจับผิดซุปตาร์” ทางช่อง 8 ที่บ้านของเธอย่านวิภาวดี เพื่อดูสไตล์การแต่งตัวฉบับนางงามกันซะหน่อย
“โบว์ลิ่ง” สาวหลายสไตล์
“โบว์ลิ่งเป็นคนแต่งตัวได้หลายแนวค่ะ บางวันก็รู้สึกว่าอยากเปรี้ยว อยากหวาน หรืออยากเท่นิดหนึ่ง ผู้หญิงเรามีเสื้อผ้าให้เลือกใส่เยอะ ทำให้สนุกกับการแต่งตัว แต่แนวที่ไม่ใส่เลยคือแนวสปอร์ต
จริง ๆ เราเป็นคนชอบเล่นกีฬานะคะ เวลาออกกำลังกายเราก็ใส่ชุดกีฬาได้ แต่ถ้าให้ไปเที่ยวแล้วใส่แนวสปอร์ตแล้วเราจะรู้สึกว่าแต่งตัวไม่ถูก แล้วเราก็ไม่ชอบใส่รองเท้าผ้าใบด้วยค่ะ”
รู้จักแต่งตัวมากขึ้นตั้งแต่เป็นนางงาม
“ก่อนโบว์ลิ่งจะเป็นนางสาวไทย ก็รู้จักแต่งตัวบ้าง แต่ไม่ได้แต่งตัวเยอะ จะเป็นแนวเซอร์ ๆ ชอบใส่แม็กซี่เดรสยาว ๆ เพราะเรารู้สึกว่าชุดพวกนี้น่ารัก และใส่ทีเดียวจบ แต่พอได้ตำแหน่งนางสาวไทยแล้ว สไตล์การแต่งตัวเราก็เปลี่ยนไป ทางกองประกวดก็แนะนำว่าเราแต่งตัวสบาย ๆ แบบเดิมไม่ได้แล้วนะเพราะคนค่อนข้างคาดหวัง เราก็เลยหันมาใส่เสื้อผ้าผู้หญิง ๆ เยอะขึ้น พวกเดรสสั้น
ห้ามสั้น และต้องถูกกาลเทศะ
“ส่วนมากชุดของนางสาวไทยจะเป็นชุดราตรีออกงาน เพราะฉะนั้นทางกองเขาจะมีคอนเน็กชั่นกับทางแบรนด์ต่าง ๆ อยู่แล้ว เขาจะช่วยเลือกให้เราแล้วในระดับหนึ่ง นาน ๆ ทีถึงจะได้เลือกเองบ้าง ส่วนชุดออกงานสบาย ๆ ตรงนี้เราจะดูแลตัวเองบ้าง เราก็ต้องเลือกเป็น เดรสสั้นสุภาพ และดูดี ซึ่งพอเราพ้นจากตำแหน่งแล้ว ก็ยังต้องดูแลเรื่องการแต่งตัวอยู่ แต่ไม่ได้ซีเรียสเท่าเดิม อย่างเมื่อก่อนเราห้ามใส่กางเกงขาสั้นเลยตลอด 1 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง แต่พอมาอยู่อาร์เอส เราก็เปลี่ยนบทบาทแล้ว สมมุติเราต้องไปถ่ายรายการที่ต้องลุย ๆ ก็สามารถใส่สั้นได้บ้างตามความเหมาะสมค่ะ”
สะสมเครื่องประดับ
“โบว์ลิ่งเป็นคนชอบ
ชอปปิงค่ะ ชอบซื้อเครื่องประดับมาก ใส่ยังไม่ครบเลยค่ะ ใส่ได้จริง ๆ แค่ 40 เปอร์เซ็นต์จากที่ซื้อมาทั้งหมด บางทีผ่านร้านเครื่องประดับเห็นมันสวยแวว วาวดี ก็ชอบเข้าไปดูแล้วก็จะได้กลับบ้าน ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ตั้งใจที่จะไปซื้อ ส่วนเรื่องสไตล์เครื่องประดับ เราเป็นคนชอบอะไรที่ฟรุ้งฟริ้ง ขนนก เลื่อม ๆ แต่กลายเป็นว่าแบบพวกนี้เราไม่ค่อยได้ใส่ ส่วนเครื่องประดับที่เป็นคริสตัลกับเพชรจะได้ใส่บ่อยกว่า เพราะว่าจะเข้ากับชุดราตรี”
หลงรักชุดกิโมโน
“สมัยเรียนมัธยมปลายโบว์ลิ่งเรียนแผน วิทย์-คณิต แล้วก็เรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มด้วย เรารู้สึกชอบภาษาญี่ปุ่น ก็คิดว่าวันหนึ่งเราอยากไปญี่ปุ่น พอเรียนจบมา มีวันหนึ่งไปเดินสยาม เห็นร้านสั่งตัดชุดกิโมโน เลยสั่งตัดเอาไว้ เป็นแค่เสื้อไม่ได้เต็มตัวค่ะ เราก็ตั้งใจว่าถ้าได้ไปญี่ปุ่นจะเอาไปใส่ พอได้ตำแหน่งนางสาวไทยก็มีโอกาสได้ไปหลายรอบมาก แต่ก็ยังไม่ได้เคยได้ใส่เลย”
กระเป๋าต้องเข้าได้กับทุกชุด
“จริง ๆ เราเป็นคนมีกระเป๋าไม่เยอะเลยนะคะ ถ้าเทียบกับผู้หญิงคนอื่น เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยชอบเปลี่ยนกระเป๋า เลยต้องเลือกกระเป๋าใบใหญ่ ใส่ของได้เยอะ โบว์ลิ่งเป็นคนไม่ติดแบรนด์เนมเลย ที่ใช้จริง ๆ มีแค่ 3 ใบ ตรงนี้พวกแบรนด์วัสดุเขาจะแข็งแรง เราไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยและใส่กับชุดอะไรก็ได้ แต่ขอแค่สองสีเท่านั้นคือน้ำตาลกับดำค่ะ”
ถนัดใส่รองเท้าส้นสูง
“เป็นคนชอบใส่ส้นสูงค่ะ เพราะโบว์ลิ่งเท้าผิดปกติไม่ค่อยเหมือนคนอื่น เรานั่งยอง ๆ แล้วส้นกระดก คุณพ่อก็บอกว่าโบว์ลิ่งเป็นคนที่เท้างุ้มมาก ต้องไปตัดรองเท้าแบบพิเศษ เลยก็รู้สึกว่าใส่ส้นสูงแล้วเดินสบายกว่า ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเราใส่ส้นสูงแค่ 2-3 นิ้ว ไม่ได้ใส่ส้นสูงมาก เอาแค่ใส่สบาย แต่พอมาประกวดนางสาวไทย ทางกองประกวดบอกเลยว่าต้อง 6 นิ้ว เพราะเวทีเรานางงามจะตัวเล็กกว่าเวทีอื่น ถึงแม้คนจะมองว่าเราสูงแล้ว แต่ถ้าไปเทียบกับคนอื่นแล้วเราตัวเล็กสุด เราก็เลยต้องใส่ส้นสูง 6 นิ้วมาตลอดปีนึง กลายเป็นว่ารองเท้าส้นสูง 6 นิ้วเยอะมาก”
แหล่งชอปปิงสุดโปรด
“โบว์ลิ่ง ชอบไป ยูเนียนมอลล์, เซ็นทรัลลาดพร้าว แล้วก็เมเจอร์รัชโยธิน มีอยู่ 3 ที่ค่ะ แล้วตรงนั้นก็ใกล้กับอาร์เอสด้วย เป็นทางที่เราต้องผ่านอยู่แล้ว ก็ขอแวบนิดนึงแล้วกัน เราเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อย ใส่ได้ไม่กี่ครั้งเอง เลยไม่อยากซื้อแพงมาก
สุดท้ายฝากสาว ๆ เรื่องการแต่งตัว
“โบว์ลิ่งว่าให้เราแต่งอะไรที่เป็นตัวเอง เลือกที่เรามั่นใจดีกว่าต้องตามเทรนด์มากหรอก เพราะตามมากเราก็เหนื่อย และสิ้นเปลืองด้วย เลยควรเลือกอะไรที่เราใส่แล้วสบาย ๆ ดีกว่า ที่สำคัญเลยคือเลือกให้เหมาะสมกับกาลเทศะจะดีที่สุดค่ะ
สมแล้วที่เป็นนางงาม...อย่างที่สาวโบว์ลิ่งฝากไว้ว่า เพราะคนเราจะสวยได้ต้องรู้จักกาลเทศะด้วยนะจ๊ะ.
ลิตเติ้ล เคท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น