ทำความรู้จัก 4 หนุ่ม ‘ซีซันไฟฟ์’

ทำความรู้จัก 4 หนุ่ม ‘ซีซันไฟฟ์’ เจ้าของเพลงจี๊ดโดนใจของหลายคน ! - คนดัง หลังฉาก

ถ้าถามผู้ฟังหลาย ๆ คนว่าเพลงของศิลปินวงไหนที่มีเนื้อร้องจี๊ดโดนใจคนอกหักมากที่สุด หลายคนต้องยกให้เพลงของ 4 หนุ่ม วง “ซีซันไฟฟ์” ที่มีสมาชิก คือ เอก-สุดเขต จึงเจริญ, เจ-เอกพล สถิราก, จั๊ก-สิโรดม หล่อกัณภัย, เปา-บวร อัจฉรารัตนโสภณ เจ้าของผลงานเพลงฮิต อาทิ พูดไม่คิด ฟีทเจอริ่ง ฟักกลิ้งฮีโร่, อีเว้นท์, แหลก ฯลฯ และล่าสุดเพลง “วู่วาม” กับสังกัดวีเรคคอร์ด ค่ายแกรมมี่ ที่คนจะจำเพลงของหนุ่ม ๆ ได้แต่ยังนึกหน้าค่าตาไม่ออก แต่ใครจะรู้บ้างว่าจริง ๆ แล้ว “ซีซันไฟฟ์” นั้นอยู่ในวงการเพลงมาตั้งแต่ร้องเบื้องหลังเสียงอะแคปเปลลาเพลง “เปรี้ยวใจ” ของนักร้องสาว “นิโคล เทริโอ” ซะด้วย วันนี้ “ฮันนี่บี” เลยอยากพาชาวเดลินิวส์ไปรู้จัก 4 หนุ่มให้มากกว่าการได้ยินแค่เพลงเพราะของเค้ากันหน่อย ติดตามกันเลยค่า

จุดเริ่มต้นของซีซันไฟฟ์

เจ : “เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียน รร.กรุงเทพคริสเตียน แล้วมาเริ่มร้องเพลงในชมรมประสานเสียง ก่อนมาจับกลุ่มกันเอง 4 คนมาเริ่มร้องเพลงสากลบ้าง หรือแต่งเองบ้าง เน้นทางประสานเสียง ไปร้องตามเทศกาล หรือ

อีเวนต์เล็ก ๆ เพื่อฝึกฝนตัวเอง หลังจากนั้นก็แยกย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยชื่อวง “ซีซันไฟฟ์” มีที่มาจากความแตกต่างของแต่ละฤดู พอมารวมตัวกันจึงเป็นความลงตัวอีกหนึ่งฤดู เป็นฤดูที่ 5 หรือ “ซีซันไฟฟ์” นั่นเองเก๋มั้ยครับ (หัวเราะ)”

แล้วจุดที่ทำให้มาเป็นนักร้องอาชีพกันล่ะ?

เจ : “เริ่มจากแกรมมี่ครับ ตอนนั้นพี่ “นิโคล เทริโอ” ออกอัลบั้ม “บุษบาหน้าเป็น” บังเอิญเราเข้ามาออดิชั่นกัน พี่นิโคลเดินผ่านได้ยินเราร้องเพลงแนวอะแคปเปลลา เค้าชอบเลยให้เรามาฟีทเจอริ่งเพลง “เปรี้ยวใจ” หลังจากนั้นก็แยกย้ายไปเรียนต่อ ทำงานบริษัท ผ่านมา 5-6 ปี เรายังมีไฟ อยากทำงานเพลงต่อเลยคุยกันกลับมาทำงานเพลงอีกครั้งมั้ย เราไม่ได้นึกถึงชื่อเสียง หรืออะไร แต่เรารักงานเพลงในแบบที่เราอยากถ่ายทอด และทุกวันนี้เพลงก็ทำงานด้วยตัวมันเองได้สำเร็จ จนเราไม่สามารถทำงานประจำกันต่อไปได้ เลยมาคุยเพื่อเลือกทำสิ่งที่เป็นความฝันร่วมกันคืออยากทำเพลง ออกอัลบั้มด้วยกันครับ”

แต่เพลง 5-6 ปีที่กลับมาทำเพลงซิงเกิ้ล “พูดไม่คิด” ฟีทเจอริ่ง ฟักกลิ้งฮีโร่ นี่ดังสุด ๆ ใช่มั้ย?

จั๊ก : “เคยทำอัลบั้มออกมา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ คิดไว้ว่าถ้าไม่โอเค เราจะแยกย้ายกันแล้ว แต่พอเหลือซิงเกิ้ลคือเพลง “พูดไม่คิด” นี่แหละที่เรามองว่าเอาเลย จะเป็นยังไงก็เป็น ลองก่อน ไม่คาดหวัง เพราะเราไม่มีสังกัด โปรโมตด้วยการส่งเพลงให้คลื่นวิทยุทั้งเหนือ ใต้ อีสาน ขับรถกันไปเองนี่แหละครับ จนไม่น่าเชื่อว่าเพลงแทรกอยู่ในชาร์ตเพลง แล้วทุกคนชอบติดชาร์ตและได้รับรางวัลด้านเพลงดีใจกันมากครับ(ยิ้ม)”

หลังจากเพลง “พูดไม่คิด” ประสบความสำเร็จแล้วคุยกันว่าจะเดินเส้นทางนี้ยังไง?

เปา : “ตัดสินใจลาออกจากงานประจำกันเลยครับ เสียสละมาทำงานดนตรีที่รัก แล้วก็มีงานคอนเสิร์ตต่าง ๆ งานเบื้องหลัง จากนั้นเข้ามาที่ตึกแกรมมี่อีกครั้ง”

จั๊ก : “ตอนเราทำเพลงเองเจอปัญหาเยอะ บางอย่างเราทำเองไม่ได้ รายได้เสียไปเยอะ วิ่งเข้าวิ่งออกแกรมมี่มา 10 กว่าปีแล้ว น่าจะถึงเวลาที่เราจะได้อยู่ที่นี่จริงจังจึงได้มาทำงานที่ค่ายสนามหลวงครับ จนปัจจุบันอยู่ค่ายวีเรคคอร์ด มีซิงเกิ้ลใหม่ “วู่วาม” ที่มาจากปลายปากกาของคุณฟองเบียร์ พูดถึงผู้ชายคนเดียวกับเพลง “พูดไม่คิด” นี่แหละครับ ทำอะไรไม่ได้กลั่นกรองจนต้องเสียคนที่รักไปแค่เสี้ยววินาทีนี่เอง ถ้าไม่ “วู่วาม” ความรักของเราคงยืนยาวต่อไปครับ”

เจ : “แต่เพลงที่จี๊ดโดนคนฟังแล้วดังมาก ๆ สำหรับเราคือเพลง “แหลก” ครับ ต่อมาก็เพลง “อีเว้นท์” แต่เพลงแหลกนี่หลายคนบอกพวกเราแต่งเพลงมากรีดแทงใจ (หัวเราะ) ซึ่งเพลงจี๊ดๆ ทั้งหมดนี่คุณเอกเป็นคนแต่งเอง หลายคนก็แซวแต่งมาขยี้ใจคนแบบนี้สงสัยมาจากประสบการณ์จริง (หัวเราะ)”

เอก : “ใช่ครับ หลายคนถามผมแต่งเพลงแบบนี้ว่าตอนนั้นชีวิตมีปมหรือเปล่า จริง ๆ ไม่ถึงขนาดนั้น แต่มันออกมาจากอารมณ์ ได้คำหนึ่งก็ไหลเลย เพลงนี้โดนใจผู้ชายเยอะมาก ๆ บางคนมายืนร้องไห้หน้าเวทีก็มี ผู้ชายเข้มแข็งเหมือนก้อนหินไงพอเอามาเปรียบเทียบเลยมีกระแสที่ตอบรับดีมาก ต้องขอบคุณทุกคนจริงๆ ครับที่ชอบเพลงนี้”

ปีนี้อยู่ในวงการเพลงปีที่เท่าไหร่แล้ว ได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการทำงาน?

เอก : “รวมจริง ๆ น่าจะ 10 กว่าปีนานมาก ๆ เราคิดมากกว่าการที่เราเป็นศิลปิน พวกเราทำรีเสิร์ชมาทุกอย่างกว่าจะทำเพลงออกมาเพลงหนึ่ง มันไม่ใช่แค่ศิลปะ จะปล่อยเพลงไหนออกไปต้องมั่นใจจริง ๆ ว่าจะถูกใจผู้ฟังครับ ไม่ใช่เอาความรู้สึกส่วนตัววัด โดยไม่สนใจคนฟัง ไม่สนใจตลาด รวมถึงการฟังเพลงต่างประเทศเพื่อความรู้ใหม่ ๆ ด้วย แต่ไม่ทิ้งตัวตนความเป็น “ซีซันไฟฟ์” นะครับ แต่เราเอามาปรับพัฒนาการทำงาน จนเป็นความลงตัวจริง ๆ”

เคยมีความเห็นไม่ลงรอยกันมั้ย?

เจ : “ไม่เคยเลยครับ แต่ละคนชอบอะไรไม่เหมือนกัน แต่มันดีนะแย้งกันจนหาจุดที่พอดี ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกันครับ ที่ผ่านมาเจอปัญหาทุกรูปแบบ ทั้งขั้นตอนทำงาน เรื่องเงินและความเป็นอยู่ เราเข้าใจวงจรนี้อย่างดี ความดังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของ “ซีซันไฟฟ์” เราแค่อยากทำเพลงที่เพื่อเข้าไปอยู่ในใจแฟน ๆ ไม่ต้องดังจนคนต้องเดินเข้ามาทัก แค่ชอบเพลงเราก็มีความสุขแล้ว และอยากให้เพลงเป็นเพลงคลาสสิกที่ผ่านไปนานแค่ไหนแฟน ๆ ก็ยังเลือกหยิบมาฟังทุกครั้ง”

ยุคนี้คนบอกทำเพลงยากนะ กว่าจะถูกใจคนฟัง?

เปา : “ยากมากจริง ๆ ครับ วันหนึ่งมีเพลงใหม่เกิดขึ้นเป็นสิบ ๆ เพลงเฉพาะเพลงไทยนะ ถามว่ายากแค่ไหน ต้องอยู่ที่คนฟังครับว่าคนฟังก็เปลี่ยนไปตลอดเวลา ยิ่งยากไปใหญ่สำหรับคนทำเพลง ยากอีกอย่างคือเราจะผสมแนวทางการทำงานที่เป็นตัวเรา รวมกับสิ่งที่แฟนเพลงจะชอบ เราจึงต้องทำการบ้านหนัก เพราะทำสิ่งที่เราชอบตลอดอาจจะไม่รอดก็ได้ แต่ก็ไม่ถึงกับทำเพื่อขาย ๆ โดยไม่คิดถึงตัวเรา”

ความคาดหวังของวงเราต่อการทำงานในวงการเพลงเป็นยังไง?

เจ : “ความคาดหวังมีบ้าง แต่ไม่ให้น้ำหนักมาก แต่ต้องเปิดใจฟังอะไรที่เข้ามากระทบเหมือนกัน เพลงทุกวันนี้คาดเดากระแสไม่ได้ แค่ตั้งใจทำให้ออกมาดี เป็นตัวเรา ไม่ได้สร้างมาเพื่อเอาเงินอย่างเดียว ศิลปินออกมาเยอะ เราท้อก็เท่ากับเราถอย เราต้องเดินหน้าทำงานให้อยู่ในคุณภาพที่ควรจะเป็นต่อไป ถึงวันหนึ่งเพลงจะให้คำตอบเองว่ามันโอเคมากน้อยแค่ไหน”

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟน ๆ เพลงเราที่ติดตามมาตลอด?

เอก : “ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและชอบเพลงของเรา ทุกคนอาจเคยได้ยินเพลงของเรา แต่ไม่รู้จักตัวเราไม่เป็นไร ทุกวันนี้เราอยู่ได้เมื่อมีคนมาทักว่าเพลงเราเป็นเพลงที่ทำให้คิดอะไรได้มากหรือชอบเพลงพวกเรา แค่นั้นคือสิ่งที่เติมกำลังใจให้เราอยากจะทำผลงานเพลงต่อ ๆ ไปครับ แล้วก็เราจะจัดงานแฟนมีทติ้งเล็ก ๆ วันที่ 29 มี.ค. 2558 ที่ตึกฟอร์จูนทาวเวอร์ พระราม 9 ชั้นใต้ดิน แบบไม่มีระยะห่างของเวทีมากั้น อยากเจอทุกคนนะครับ จำนวนที่อาจมีจำกัด แฟน ๆ เลยต้องเล่นเกมซึ่งติดตามรายละเอียดในแฟนเพจว่าเข้าร่วมยังไงได้ที่ www.facebook.com/seasonfive แล้วเจอกันนะครับ”

เรียกว่าเป็นอีกกลุ่มคนดนตรีที่มีความตั้งใจในการทำงานเพลงอย่างดี ยังไงก็ฝากแฟน ๆ ให้กำลังใจ 4 หนุ่ม “ซีซันไฟฟ์” ให้สร้างสรรค์ผลงานเพลงเพราะ ๆ เนื้อหาจี๊ดโดนใจพวกเรากันต่อไปด้วยนะคะ.

“ฮันนี่บี”